Display mode (Doesn't show in master page preview)

19 มกราคม 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 15-19 ม.ค. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนที่ 35.71 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับยังไม่มีสัญญาณปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินจากธปท. อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับไปอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังมีสัญญาณว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอาจมีความล่าช้า ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ทยอยแข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ สอดคล้องกับการที่ตลาดทยอยปรับลดโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. ลงมา นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าและดีดตัวกลับมาบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางของสกุลเงินเอเชียในภาพรวม  
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 22-26 ม.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.00-35.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนธ.ค. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ผลการประชุม BOJ และ ECB รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไปและพื้นฐาน (PCE/Core PCE Price Indices) เดือนธ.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 (ครั้งที่ 1) ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนม.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนท่ามกลางแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้หุ้นไทยทยอยปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากยังคงไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน ประกอบกับมีความกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอาจมีความล่าช้า นอกจากนี้ ความกังวลว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานาน (หลังเจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความคิดเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย) รวมถึงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน หลังจีดีพีไตรมาส 4/66 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ก็เป็นปัจจัยลบที่กดดันหุ้นไทยด้วยเช่นกัน ส่งผลให้เกิดแรงขายหุ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์
  • สัปดาห์ที่ 22-26 ม.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,385 และ 1,370 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,425 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนธ.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การประชุม BOJ และ ECB ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/66 ของบจ. ไทย ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนธ.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/66 ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI เดือนม.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนม.ค. ของจีน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น