Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 มกราคม 2566

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 16-20 ม.ค. 66)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 10 เดือนครั้งใหม่ที่ 32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางแนวโน้มที่เฟดจะชะลอขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอ อย่างไรก็ดีเงินบาทเผชิญแรงขายเป็นระยะในระหว่างสัปดาห์จากสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับสกุลเงินเอเชียบางส่วนอ่อนค่าลงตามเงินหยวน ซึ่งมีปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอ อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางทิศทางแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-27 ม.ค. 2566 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.50-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย อัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือนธ.ค. และจีดีพีไตรมาส 4/65 (ครั้งที่ 1) ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนม.ค. ของยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆเข้ามาสนับสนุนหลังตอบรับปัจจัยบวกไปพอสมควร ก่อนจะดีดตัวขึ้นช่วงสั้นๆระหว่างสัปดาห์ตามแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับมีแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเข้ามาช่วยหนุนภาพรวมตลาด กระนั้นก็ดีหุ้นไทยร่วงลงแรงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงฉุดหลักจากหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังผลประกอบการงวดล่าสุดของแบงก์ใหญ่บางแห่งออกมาต่ำกว่าตลาดคาด
  • สัปดาห์ที่ 23-27 ม.ค. 2566 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,670 และ 1,650 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,700 และ 1,710 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (25 ม.ค.) ตัวเลขส่งออกเดือนธ.ค. ของไทย ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ของบจ. ไทย รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนธ.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนี PMI เดือนม.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น