Display mode (Doesn't show in master page preview)

22 กันยายน 2566

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 18-22 ก.ย. 66)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาททยอยอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นทั้งในช่วงก่อนและหลังการประชุมเฟด โดยมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดที่เปลี่ยนแปลงไปใน dot plot ซึ่งบ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อาจทรงตัวอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับทบทวนขึ้น สะท้อนโอกาสที่เฟดจะส่งสัญญาณคุมเข้มต่อเนื่องในระยะข้างหน้า แม้ในการประชุมรอบนี้ เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% และเปิดโอกาสสำหรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ไว้ตามเดิมก็ตาม นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงินบาทในระหว่างสัปดาห์ยังสอดคล้องกับแรงขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนที่ 36.34 บาทต่อดอลลาร์ฯ แต่ฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามการปรับโพสิชันของตลาดก่อนการประชุม กนง. ในวันที่ 27 ก.ย. นี้   
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 25-29 ก.ย. 2566 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.70-36.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (27 ก.ย.) ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนส.ค. ทิศทางเงินทุนต่างชาติและค่าเงินหยวน ดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อจากมุมมองผู้บริโภคเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีน ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของยูโรโซน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยร่วงลงแรงตั้งแต่ช่วงต้น-กลางสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางหุ้นต่างประเทศท่ามกลางปัจจัยลบ อาทิ ข่าวบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ของจีนยื่นล้มละลายในสหรัฐฯ อีกราย ความกังวลว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ตลอดจนแรงขายต่อเนื่องของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาบางส่วนในช่วงที่เหลือของสัปดาห์หลังตอบรับปัจจัยลบข้างต้นไปพอสมควร อนึ่งหุ้นกลุ่มแบงก์ร่วงลงสวนทางตลาด ในช่วงปลายสัปดาห์ หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการปรับลดน้ำหนักการลงทุนของหุ้นธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง
  • สัปดาห์ที่ 25-29 ก.ย. 2566 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,505 และ 1,485 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,550 และ 1,560 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (27 ก.ย.) ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ประเด็นเรื่องการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. ของสหรัฐฯ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น