สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
- เงินบาททยอยอ่อนค่าลง หลังจากตัวเลขจีดีพีของไทยในไตรมาส 3/66 ชะลอลงและต่ำกว่าที่ตลาดคาด (จีดีพีไทยขยายตัวเพียง 1.5% YoY ในไตรมาส 3/66 ต่ำกว่า Bloomberg Poll ที่ 2.2% YoY และต่ำกว่า 1.8% YoY ในไตรมาส 2/66) นอกจากนี้เงินบาทและสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องท่ามกลางแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ หลังจากที่บันทึกการประชุมเฟดสะท้อนว่า เฟดยังคงไม่ปิดโอกาสที่จะกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังไม่กลับไปอยู่ที่ระดับเป้าหมาย เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากสัญญาณขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงอาจจะมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในช่วงใกล้สิ้นเดือนของกลุ่มผู้นำเข้า
- สัปดาห์ระหว่างวันที่ 27 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2566 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.90-35.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (29 พ.ย.) ตัวเลขการส่งออกและเครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนต.ค. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ อัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ รายงาน Beige Book ของเฟด ตลอดจนข้อมูล PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ จีน อังกฤษและยูโรโซน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
- ดัชนีหุ้นไทยหลุดแนว 1,400 จุดในช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงแรก โดยแม้จะมีปัจจัยลบจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 ของไทยที่ออกมาต่ำกว่าคาด แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกจากการที่ตลท. ส่งสัญญาณคุมเข้มการทำ Naked Short Selling อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยทยอยปรับตัวลงตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ หลังบันทึกการประชุมเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะมีการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยอีก หากเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้า ประกอบกับเผชิญแรงขายของหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานจากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่ออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลงจากประเด็นการเลื่อนประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส
- สัปดาห์ที่ 27 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2566 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,390 และ 1,375 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,415 และ 1,430 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนต.ค. ของไทย การประชุมกนง. (29 พ.ย.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การประชุมโอเปกพลัส (30 พ.ย.) ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่นและยูโรโซน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น