Display mode (Doesn't show in master page preview)

26 มกราคม 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 22-26 ม.ค. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 35.88 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงตามเงินเยนและสกุลเงินเอเชียบางส่วนช่วงต้นสัปดาห์ก่อนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งตลาดคาดว่า BOJ น่าจะคงนโยบายการเงิน และอาจจะยังไม่ส่งสัญญาณมากนักเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน อย่างไรก็ดี เงินบาทแกว่งตัวในกรอบอ่อนค่าในช่วงต่อมาท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ เงินบาทยังอ่อนค่าลงตามแรงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องของต่างชาติ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่มีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี ซึ่งหนุนโอกาสความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดจะยืนอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชั่นก่อนตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์ (26 ม.ค.) และก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 30-31 ม.ค. นี้    
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 29 ม.ค. – 2 ก.พ. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.30-36.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ผลการประชุมเฟด (30-31 ม.ค.) ผลการประชุม BOE  และรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนธ.ค. 2566 ของธปท. ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ จีดีพีไตรมาส 4/2566 ของยูโรโซน และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ทั้งนี้หุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ และแตะจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี 3 เดือนที่ 1,352.48 จุด โดยเผชิญแรงขายต่อเนื่องจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มแบงก์หลังผลประกอบการไตรมาส 4/66 ออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับมีปัจจัยลบจากข่าวสศค. ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 และ 2567 ลง หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากการเตรียมตั้งกองทุนพยุงหุ้นและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน และจากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ อย่างไรก็ดีหุ้นไทยย่อตัวลงอีกครั้งในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากความกังวลเรื่องผลประกอบการ และแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า (30-31 ม.ค.)
  • สัปดาห์ที่ 29 ม.ค. – 2 ก.พ. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,360 และ 1,350 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,390 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (30-31 ม.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/66 ของบจ. ไทย ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2566 ของยูโรโซน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น