Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 มีนาคม 2568

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 24-28 มี.ค. 68)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทอ่อนค่าลงเข้าใกล้ระดับ 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค (สกุลเงินเอเชียอื่นๆ อ่อนค่าลงสอดคล้องกับเงินหยวนและเงินเยน ขณะที่ เงินรูเปียห์แตะระดับอ่อนค่าสุดนับตั้งแต่มิ.ย. 2541) ท่ามกลางแรงหนุนต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ฯ จากสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยของเฟด นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยลบจากสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน เงินบาทฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้น ๆ ระหว่างสัปดาห์ โดยมีอานิสงส์สำคัญจากการทะยานกลับมาทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก แต่กลับไปอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ตามแรงขายสุทธิหุ้นไทยของต่างชาติ (ประกอบกับตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปิดการซื้อขาย หลังแผ่นดินไหวรุนแรง)     
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 31 มี.ค. – 4 เม.ย. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.30-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายละเอียดของการเรียกเก็บ Reciprocal Tariff ของสหรัฐฯ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของไทย ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของยูโรโซน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยพลิกร่วงลงท้ายสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า ขณะที่ตลาดหุ้นปิดการซื้อขายในช่วงบ่ายของวันศุกร์หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบเกือบตลอดสัปดาห์ โดยในช่วงแรกตลาดหุ้นมีแรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่าสหรัฐฯ อาจบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้แบบเจาะจง ซึ่งช่วยคลายความกังวลบางส่วนต่อประเด็นสงครามการค้า ประกอบกับมีแรงซื้อหุ้นรายตัวเข้ามาหนุน โดยเฉพาะหุ้นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งและบริษัทค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งที่ประกาศแผนซื้อคืนหุ้น รวมถึงหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง แต่กรอบการปรับขึ้นค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของประเด็นสงครามการค้า อย่างไรก็ดี หลังปธน. สหรัฐฯ ประกาศเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% โดยมีผลบังใช้ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ก็ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลว่าสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นและเกิดแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้ปริมาณการซื้อขายในสัปดาห์นี้ค่อนข้างเบาบาง โดยเฉพาะวันศุกร์ ซึ่งเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ประกาศปิดการซื้อขายในช่วงบ่าย อนึ่ง สัปดาห์นี้หุ้นแบงก์ปรับตัวได้ต่อเนื่องสวนทางกับภาพรวมตลาด เนื่องจากมีแรงหนุนจากแรงซื้อก่อนจ่ายปันผลและประกาศงบไตรมาส 1/2568
  • สัปดาห์ที่ 31 มี.ค. – 4 เม.ย. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,165 และ 1,155 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,185 และ 1,200 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของไทย ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนมี.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค. ของยูโรโซน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest