Display mode (Doesn't show in master page preview)

29 กันยายน 2566

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 25-29 ก.ย. 66)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 10 เดือนครึ่งที่ 36.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เงินบาททยอยอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ท่ามกลางสัญญาณคุมเข้มทางการเงินจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด ซึ่งสะท้อนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้การปรับตัวลงของราคาทองคำและการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกก็เป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน อนึ่ง เงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันด้านอ่อนค่า แม้ว่า กนง. จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปที่ระดับ 2.50% ในการประชุมวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันและทำกำไรก่อนปิดสิ้นไตรมาส ขณะที่ตลาดกลับมารอติดตามความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 2-6 ต.ค. 2566 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.20-36.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยปิดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทั้งนี้หุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ตามแรงขายหลักๆ จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ การตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานของเฟด ความเสี่ยงของการปิดหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ตลอดจนปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ทั้งนี้แรงขายบิ๊กล็อต (Big Lot) ในหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่งกดดันหุ้นไทยให้ร่วงลงต่อในช่วงท้ายสัปดาห์สวนทางหุ้นภูมิภาค อนึ่ง หุ้นไทยขยับขึ้นช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ นำโดย กลุ่มแบงก์ที่รับอานิสงส์จากการที่กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ไปที่ระดับ 2.50%
  • สัปดาห์ที่ 2-6 ต.ค. 2566 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,460 และ 1,440 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,485 และ 1,500 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ การจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนดัชนี PMI เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อังกฤษและยูโรโซน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น