สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
• เงินบาทอ่อนค่ากลับมาตามแรงขายทำกำไรทองคำในตลาดโลก ทั้งนี้ในสัปดาห์ทำการสุดท้ายของปี 2568 เงินบาทพลิกอ่อนค่า กลับมาแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 31.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามแรงขายทำกำไรทองคำในตลาดโลกและแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชั่นก่อนสิ้นปี นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทในระหว่างสัปดาห์ยังสอดคล้องกับแรงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน ในสัปดาห์นี้ (29-30 ธ.ค. 68) ธปท. มีการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลธุรกรรมเงินตราต่างประเทศขาเข้า เพื่อลดแรงกดดันด้านแข็งค่าของเงินบาทและป้องกันการนำเงินเข้าประเทศที่ไม่ตรงกับแหล่งที่มาที่แจ้งไว้ หรือการทำธุรกรรมที่ไม่พึงประสงค์ โดยมีการปรับหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการทำธุรกรรมขาย FX ของผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล นอกจากนี้ ธปท. และสำนักงาน ปปง. ยังร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำเพื่อยกระดับการกำกับดูแลให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
สำหรับภาพรวมในปี 2568 (2 ม.ค.-30 ธ.ค. 2568) เงินบาทแข็งค่าขึ้น 8.5% มาปิดตลาด ณ สิ้นปี 2568 ที่ 31.41 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นปี 2567
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 5-9 ม.ค. 2569 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.00-31.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน และอังกฤษ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของยูโรโซน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงในช่วงแรก ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้ในวันทำการสุดท้ายของปี 2568 ขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางก่อนเข้าสู่ช่วงหยุดยาวสิ้นปี ทั้งนี้ SET Index ปรับตัวลงในวันทำการแรกของสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์และต่างชาติ โดยมีการเลือกขายทำกำไรหุ้นรายตัว อาทิ บริษัทผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยาน บริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีก และบริษัทด้านพลังงาน เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในวันทำการสุดท้ายของปี 2568 ตามแรงซื้อหุ้นกลุ่มแบงก์ก่อนประกาศงบไตรมาส 4/2568 และหุ้นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่งหลังร่วงลงแรงก่อนหน้านี้ อนึ่ง สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการเพียง 2 วัน ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
สำหรับภาพรวมระหว่างวันที่ 2 ม.ค.-30 ธ.ค. 2568 นั้น ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,259.67 จุด (ณ 30 ธ.ค. 68) ลดลง 10.04% จากระดับ 1,400.21 จุด ณ สิ้นปี 2567
• สัปดาห์ที่ 5-9 ม.ค. 2569 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,240 และ 1,230 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,270 และ 1,285 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของยูโรโซนและจีน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น