Display mode (Doesn't show in master page preview)

15 มิถุนายน 2566

Econ Digest

เฟดมีมติ...คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.00-5.25% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งภายในปีนี้

คะแนนเฉลี่ย

จากการประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิถุนายน 2566 เฟดมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.00-5.25% ตามคาด อย่างไรก็ดี จากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในปี 2566 เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นมุมมองที่แข็งกร้าวกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับด้วยการปรับลดลง ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี เฟดมีการปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 จากประมาณการก่อนหน้าที่ 0.4% มาอยู่ที่ 1.0% สะท้อนว่าเฟดมีมุมมองว่าจะสามารถนำพาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไปสู่ Soft Landing ได้ โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 ซึ่งหากเป็นไปตามคาด ก็คงส่งผลดีต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกรวมถึงการส่งออกไทย

ทั้งนี้ จากการส่งสัญญาณของเฟด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี หากเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอลงกว่าที่เฟดประเมินไว้ ขณะที่ ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางปัญหาในภาคธนาคารสหรัฐฯ ที่ยังไม่สิ้นสุดลง เฟดอาจมีมุมมองที่ลดความแข็งกร้าวลง และอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่ถึง 2 ครั้งตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ ขณะที่ เรายังไม่มองการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566 หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้ชะลอตัวลงรุนแรงกว่าที่ประเมินอย่างมีนัยสำคัญ


 


Click
 ชมคลิป เฟดมีมติ...คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.00-5.25% ตามคาด พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งภายในปีนี้

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest

FED