Display mode (Doesn't show in master page preview)

31 กรกฎาคม 2563

Econ Digest

Gluten Free เทรนด์ฮิตกลุ่มอาหารฟรีฟอร์ม โอกาสสร้างโปรดักส์แชมเปี้ยนตัวใหม่จาก "มันสำปะหลังไทย"

คะแนนเฉลี่ย
​                 กลูเตนฟรี (Gluten Free) คืออาหารที่ปราศจากโปรตีนกลูเตน อันเป็นโปรตีนที่พบในข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต เป็นต้น การบริโภคกลูเตน จะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในคนที่มีภาวะแพ้โปรตีนชนิดนี้ เรียกว่า โรคภูมิแพ้กลูเตนหรือโรคเซลิแอค (Celiac Disease) ทำให้ระบบย่อยและดูดซึมอาหารในลำไส้เล็กทำงานผิดปกติ เพราะเยื่อบุลำไส้อักเสบหรือถูกทำลาย รวมถึงเกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด และท้องเสีย นอกจากนี้ อาหารที่มีกลูเตน ยังให้พลังงานสูง เนื่องจากมีไขมันและปริมาณแป้งที่สูง อันจะก่อให้เกิดภาวะน้ำหนักเกินและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ อาหารที่ปลอดสารกลูเตน หรือ กลูเตนฟรี จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสุขภาพ โดยอาหารในกลุ่มกลูเตนฟรี มีสัดส่วนการบริโภคกว่าร้อยละ 29 ของตลาดอาหารฟรีฟอร์มโลก (Free From อาหารที่ปราศจากสารปรุงแต่ง)
 
               ตลาดกลุ่มผู้บริโภคหลักของอาหารกลูเตนฟรี ส่วนใหญ่จะอยู่ในสหภาพยุโรป (ร้อยละ 52) และสหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 20) เนื่องจาก ผลผลิตธัญพืชหลักในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะเป็นข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ทำให้มีความต้องการแป้งปลอดกลูเตนในปริมาณสูง โดยมูลค่าตลาดแป้งปลอดกลูเตนในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริการวมกันในปี 2562 อยู่ที่ 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี ดังนั้น จึงนับเป็นโอกาสของมันสำปะหลังไทย ที่ควรสนับสนุนให้เป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยนตัวใหม่ เพราะสามารถนำมันสำปะหลังมาผลิตเป็นแป้งปลอดกลูเตนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น เบเกอรี่ อาหารที่ไม่มี​ส่วนผสมของนม ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม  ที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มมากขึ้นในตลาดโลก



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest