Display mode (Doesn't show in master page preview)

4 กันยายน 2568

Econ Digest

เงินเฟ้อไทยเดือนส.ค. 2568 ติดลบมากกว่าคาด ทั้งปี 2568 ปรับลดเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.1%

คะแนนเฉลี่ย
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเดือนส.ค. 2568 ยังติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ที่ -0.79%YoY จากแรงกดดันด้านอุปทานเป็นสำคัญ โดยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์ปรับลดลง -7.4%YoY ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบโลกและมาตรการบรรเทาค่าครองชีพของภาครัฐฯ รวมถึงราคาผักผลไม้สดและไข่ไก่ที่ปรับลดลง -13.7%YoY และ -7.8%YoY ตามลำดับ จากผลผลิตที่ล้นตลาดและกดดันราคาให้ปรับลดลง ขณะที่อุปสงค์ในประเทศชะลอตัว 
  • เงินเฟ้อไทยยังมีความเสี่ยงของสภาวะเงินฝืด จากราคาที่ปรับลดลงขยายวงกว้าง (Broad-based) มากขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. 2568 มีรายการสินค้าที่ราคาปรับลดลงเพิ่มขึ้น 10 รายการ เช่น นมและผลิตภัณฑ์นม ผลไม้แปรรูป เครื่องแต่งกายบางชนิด เป็นต้น รวมเป็น 183 รายการ จากรายการทั้งหมดในตะกร้าสินค้าที่ใช้คำนวณอัตราเงินเฟ้อจำนวน 464 รายการ หรือคิดเป็นราว 40% o อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังปรับเพิ่มขึ้นที่ 0.81%YoY ในเดือนส.ค. 2568 และผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง โดยราคาสินค้าหลายรายการยังปรับเพิ่มขึ้น อาทิ อาหารสำเร็จรูป ยา ค่าวัสดุก่อสร้าง รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการบริการที่ปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าเช่าบ้าน ค่าบำรุงรักษารถยนต์ ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมีส่วนกดดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนส.ค. 2568 อยู่ที่ 47.9 ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นที่ลดลง 
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดประมาณการอัตราเงินเฟ้อในปี 2568 ลงมาอยู่ที่ 0.1% จาก 0.3% โดยไตรมาสที่ 3 คาดว่าจะติดลบมากกว่าคาดเล็กน้อย ขณะที่ในไตรมาส 4 คาดว่าเงินเฟ้ออาจพลิกกลับมาเป็นบวกได้แต่จะน้อยกว่าที่เคยประเมินไว้ เนื่องจาก 
• ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศมีแนวโน้มปรับลดลง ตามราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะต่ำกว่าปีก่อนเกือบ 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ค่าไฟฟ้าในเดือนก.ย.-ธ.ค. 2568 ปรับลงมาอยู่ที่ 3.94 บาทต่อหน่วย จากมาตรการบรรเทาค่าครองชีพของรัฐบาล
• ราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มลดลง จากผลผลิตที่ออกมาเกินความต้องการ เนื่องจากสภาพอากาศที่มีความเหมาะสมในการเพาะปลูกมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน และจากการนำเข้าผักและผลไม้สดราคาถูกจากจีนและเวียดนาม 
• แนวโน้มอุปสงค์ในประเทศชะลอลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเมืองจะส่งผลต่อความต่อเนื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2568 นอกจากนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต่ำกว่าที่คาดส่งผลต่อการใช้จ่ายในประเทศเช่นกัน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น