เดือนต.ค.2563 ครัวเรือนไทยมีมุมมองดีขึ้นต่อภาวะการครองชีพโดยรวม ดัชนีภาวะเศรษฐกิจ และการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) เดือนต.ค. 2563 อยู่ที่ 39.5 ดีขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ 38.1 ทั้งนี้ ครัวเรือนมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อภาวะการจ้างงานและรายได้ โดยเฉพาะครัวเรือนในต่างจังหวัดที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานภาคเกษตร สอดคล้องกับราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้นหนุนรายได้ครัวเรือนเกษตรให้ปรับตัวดีขึ้น แต่ครัวเรือนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลกลับมีมุมมองด้านการจ้างงานและรายได้ไม่ดีขึ้น สอดคล้องกับผลสำรวจด้านการจ้างงานขององค์กรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่พบว่าการเลิกจ้างยังคงเร่งตัวขึ้นจากเดือนมิ.ย. 2563 องค์กรส่วนใหญ่ยังชะลอการรับพนักงานใหม่ และมีการเกษียณอายุก่อนกำหนดในบริษัทเอกชนมากขึ้น โดยมุมมองของครัวเรือนในเรื่องรายได้และการจ้างงานที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันอาจเพราะแรงงานในภาคการผลิตและบริการที่ถูกเลิกจ้างได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และกลับเข้าสู่ภาคเกษตร ซึ่งในภาพรวมสถานการณ์การจ้างงานของไทยยังคงเปราะบาง
แม้ว่าผลสำรวจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และค่าครองชีพของครัวเรือนไทยใน 3 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน แต่ผลสำรวจระบุว่าครัวเรือนคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ส่วนหนึ่งเพราะเริ่มเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองในช่วงสิ้นปี อย่างไรก็ดีมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐที่เริ่มในช่วงสิ้นเดือนต.ค.2563 – ธ.ค.2563 ทั้งโครงการเพิ่มวงเงินให้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง และโครงการช้อปดีมีคืน จะช่วยสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาส 4/2563 โดยเฉพาะมาตรการคนละครึ่งที่จะช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับชุมชนร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่แผงลอย
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญปัจจัยท้าทายในระยะข้างหน้า ทั้งการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน ความกังวลต่อการระบาดซ้ำของโควิด-19 และการระบาดซ้ำรุนแรงในยุโรปซึ่งอาจจะกระทบแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในระยะถัดไป
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock.com
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น