Display mode (Doesn't show in master page preview)

3 กันยายน 2567

Econ Digest

ความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ

คะแนนเฉลี่ย

เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย
        เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ได้แก่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ ลำพูน พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย และนครสวรรค์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 14 – 21 สิงหาคม 2567 ส่งผลให้ปริมาณฝนตกสะสมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งผลจากสภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูง ทำให้ความชื้นในบรรยากาศมีมาก ปริมาณฝนในช่วงมรสุมจึงมีมากกว่าปกติ
        โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คาดว่าในช่วงสัปดาห์หน้าร่องมรสุมจะเริ่มเลื่อนต่ำและมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในพื้น อาจจะเพิ่มความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออก และกรุงเทพมหานคร สำหรับภาคใต้มีแนวโน้มฝนตกหนักเช่นเดียวกัน
        โดยสถานการณ์น้ำท่วมในปี 2567 จะไม่รุนแรงเท่าเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 เนื่องจากมีจำนวนพายุ ปริมาณน้ำฝน และปริมาณน้ำในเขื่อนหลักมีปริมาณน้อยกว่า โดยพายุที่คาดว่าจะพัดผ่านประเทศไทยในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม มีโอกาสเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

        ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อประชาชนและการดำเนินธุรกิจ ภาคธุรกิจควรหันมาให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยนับตั้งแต่ปี 2550 ความเสียหายที่เกิดจาก
น้ำท่วมคิดเป็นจำนวน 60,000 ล้านบาท นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดทำคู่มือ TCFD Recommendations ซึ่งเป็นแนวทางในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสและความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นแนวทางให้ธุรกิจนำไปปรับใช้ประเมินความเสี่ยงของตนเอง

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest