Display mode (Doesn't show in master page preview)

9 ตุลาคม 2563

Econ Digest

ช้อปดี มีคืน ช่วยกระตุ้นการบริโภค ไตรมาส 4/2563

คะแนนเฉลี่ย

​          การที่ภาครัฐได้ออกมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยให้การใช้จ่ายในช่วง 23 ต.ค. – 31
ธ.ค. 2563 รวมเวลา 70 วัน  สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุด 30,000 บาท นัั้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า มาตรการดังกล่าว น่าจะสามารถช่วยกระตุ้นการบริโภคในช่วงไตรมาส 4/2563 ได้
หากมีผู้เสียภาษีเข้าร่วมโครงการ 1.85-4.0 ล้านคน จะส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง
55,500 - 120,000 ล้านบาท ทั้งนี้ หากรวมกับมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็น
มาตรการคนละครึ่ง และมาตรการเติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มอีกเดือนละ 500 บาท รวมถึง
การทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยว จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2563 มีแนวโน้มดีขึ้น และหดตัวลดลง
เมื่อเทียบกับ 2 ไตรมาสก่อนหน้า

         ทั้งนี้ มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” น่าจะช่วยให้เกิดการระบายสินค้าคงคลังที่มีอยู่สูง อีกทั้งจะช่วยผลักดันยอดขาย
และเพิ่มสภาพคล่องของผู้ประกอบการต่างๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ การจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น จะช่วยสร้าง
บรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น โดยในภาพรวม ภาคค้าปลีกน่าจะ
ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการนี้มากที่สุด ในขณะที่ยอดใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อภาคธนาคาร เนื่องจาก
ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตน่าจะขยายตัวมากขึ้น

         อย่างไรก็ดี คาดว่ามาตรการ ""ช้อปดีมีคืน"" จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้เพียงชั่วคราว และคงมีผลประโยชน์ต่อการ
จ้างงานค่อนข้างจำกัด เนื่องจากผู้ผลิตสินค้าอาจจะยังไม่พิจารณาการกลับมาผลิตเพิ่ม หากอุปสงค์ยังไม่กลับมา
ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่ น่าจะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่อยู่ในระบบภาษี ส่วน
ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) อาจไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงเท่าใดนัก และเมื่อการฟื้นตัว
ของการบริโภค หลังจากที่มาตรการหมดลงไปแล้ว คงกลับมาขึ้นอยู่กับ แรงขับเคลื่อนพื้นฐานของเศรษฐกิจ โดย
เฉพาะอย่างยิ่ง การท่องเที่ยว รายได้จากการจ้างงาน และรายได้ภาคการเกษตร เป็นสำคัญ

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest