Display mode (Doesn't show in master page preview)

4 เมษายน 2566

Econ Digest

ส่งออกรถยนต์ไทย เผชิญโจทย์ท้าทาย...เมื่อตลาดหลักหันไปนำเข้า BEV เพิ่มขึ้น

คะแนนเฉลี่ย

        รถยนต์ BEV กลายเป็นตลาดที่มีอนาคตมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทิศทางความต้องการรถยนต์ BEV ที่เพิ่มขึ้นของตลาดโลก กลายมาเป็นความท้าทายที่สำคัญของการส่งออกรถยนต์ไทย โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่ามีโอกาสที่การส่งออกรถยนต์ของไทยไปตลาดกลุ่มโอเชียเนีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ในปี 2566 จะมีแนวโน้มลดลง -2.5% YoY จากการที่กลุ่มประเทศดังกล่าวเริ่มหันไปนำเข้ารถยนต์ BEV มากขึ้น ซึ่งตลาดเหล่านี้รวมกันแล้วครองส่วนแบ่งเกือบ 47% ของปริมาณการส่งออกรถยนต์ของไทยไปตลาดโลก อย่างไรก็ดี การส่งออกรถยนต์ของไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดที่เหลืออีก 53% เป็นของกลุ่มประเทศเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ที่คาดว่าน่าจะช่วยดึงให้การส่งออกรถยนต์โดยรวมของไทยไม่ปรับลดลงมากได้ โดยคาดว่าการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้จะเพิ่มขึ้น +4.2% YoY ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกรถยนต์ไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 1% ไปอยู่เหนือระดับ 1 ล้านคันอีกครั้งที่ราว 1,010,000 คัน  

        สำหรับการรักษายอดส่งออกรถยนต์ของไทยให้เติบโตในระยะถัดไปยังคงเป็นความท้าทาย ถึงแม้ว่าไทยจะมีเป้าหมายในการพัฒนาขึ้นเป็นฐานการผลิตรถยนต์ BEV เพื่อการส่งออก แต่กว่าที่ไทยจะพร้อมผลิตเพื่อส่งมอบได้คงต้องใช้เวลา โดยอาจจะเป็นช่วงตั้งแต่ปี 2568 หรือ 2569 เป็นต้นไป และก่อนที่จะถึงเวลานั้นก็อาจเป็นจังหวะที่ทำให้ไทยสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดได้ในการส่งออกไปยังบางประเทศ ดังนั้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ การดึงดูดค่ายรถสัญชาติต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนผลิตรถยนต์ BEV ในไทย เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกรถยนต์ BEV ในอนาคต จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา

 


Click
 ชมคลิป ส่งออกรถยนต์ไทย เผชิญโจทย์ท้าทาย...เมื่อตลาดหลักหันไปนำเข้า BEV เพิ่มขึ้น

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น