Display mode (Doesn't show in master page preview)

7 กุมภาพันธ์ 2565

Econ Digest

ไทยฟื้นสัมพันธ์ซาอุฯ สร้างโอกาสใหม่ให้สินค้าและธุรกิจไทย...คาดส่งออกไทยไปซาอุฯ ปี 65 โต 15%

คะแนนเฉลี่ย

​การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียครั้งแรกในรอบ 30 ปี ส่งผลให้หลังจากนี้คงจะมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างกันมากขึ้น โดยในปี 2564 ไทยมีมูลค่าการค้ากับซาอุฯ รวมเพียง 7,301 ล้านดอลลาร์ฯ ส่วนใหญ่ไทยพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและเคมีภัณฑ์สูงถึง 5,662 ล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่ไทยส่งออกสินค้าเพียง 1,638 ล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็นเพียง 0.6% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การกระชับความสัมพันธ์ครั้งนี้จะสร้างโอกาสใหม่แก่สินค้าและธุรกิจไทย ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาการการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งแม้สินค้าไทยจะตอบโจทย์ความต้องการของซาอุฯ ได้โดดเด่นที่สุดในอาเซียน แต่ในช่วงที่ผ่านมาสินค้าจากคู่แข่งอย่างอินโดนีเซียหลายรายการก็เริ่มแข่งขันกับไทย อาทิ รถยนต์นั่ง อาหารทะเลแปรรูป ขณะเดียวกันก็ต้องระวังสินค้าข้าวจากเวียดนามที่อาจแข่งกับข้าวไทยมากขึ้น อย่างไรก็ดี การแข่งขันของไทยกับคู่แข่งในขณะนี้ยังอยู่ในสถานะเท่าเทียมกัน คือต้องเสียภาษีนำเข้าเฉลี่ยที่ 5.6% (MFN rate) ซึ่งการจะผลักดันการส่งออกของไทยไปซาอุฯ ให้เติบโตได้เต็มศักยภาพส่วนหนึ่งต้องอาศัยแรงผลักดันของภาครัฐ ซึ่งหากอาศัยจังหวะที่ไทยและซาอุฯ เริ่มสานสัมพันธ์ครั้งใหม่ต่อยอดเจรจาจัดทำ FTA ระหว่างกันได้ก่อนชาติอื่น โดยอาจใช้รูปแบบเดียวกับสิงคโปร์ผ่านความตกลง GCC ก็จะช่วยสร้างแต้มต่อให้สินค้าไทยมีโอกาสเข้าทำตลาดได้มากขึ้น


ซาอุฯ เป็นตลาดอันดับ 2 ของไทยในตะวันออกกลาง เป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก มีรายได้ต่อหัวสูงที่ราว 20,000 ดอลลาร์ฯต่อคนต่อปี มีประชากร 30 ล้านคน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปี 2565 ด้วยแรงฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาพลังงานที่สูงขึ้นจะช่วยสร้างรายได้กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศซาอุฯ เป็นอานิสงส์โดยรวมต่อการส่งออกไทยไปซาอุฯ ให้กลับสู่ภาวะใกล้เคียงก่อนโควิด-19 โดยมีโอกาสเติบโต 15% มูลค่าส่งออกราว 1,900 ล้านดอลลาร์ฯ และต่อไปสัญญาณบวกจากการฟื้นความสัมพันธ์นี้ น่าจะทำให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและอาจทำให้การส่งออกไทยไปซาอุฯ เร่งตัวอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ฯ ในเวลา 3 ปี แตะมูลค่า 2,600 ล้านดอลลาร์ฯ ในปี 2567 โดยได้รับแรงผลักดันสำคัญจากสินค้าอาหารฮาลาล ยานยนต์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้า

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest