Display mode (Doesn't show in master page preview)

3 ตุลาคม 2565

Econ Digest

จับตาค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (3-7 ต.ค. 65) ท่ามกลางความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก...หลังเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

คะแนนเฉลี่ย

เงินบาททำสถิติอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 16 ปี ตามกระแสการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชีย ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้นรับสัญญาณการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดี กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทชะลอลงบางส่วนหลังการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางอังกฤษ และการเข้าดูแลค่าเงินหยวนของธนาคารกลางจีน ที่กระตุ้นให้เกิดแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชันและทำกำไรก่อนช่วงปิดสิ้นไตรมาส
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 3-7 .. 2565 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 37.50-38.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของไทย กระแสเงินทุนต่างชาติและสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียและธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น อังกฤษและยูโรโซน




หุ้นไทยร่วงลงแรงหลุดแนว 1,600 จุด ปิดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ทั้งนี้ SET Index ปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ตามแรงเทขายหลักจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก จากการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะเฟด ขณะที่กนง.ก็มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมช่วงกลางสัปดาห์ พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีหน้าด้วยเช่นกัน สัปดาห์ที่ 3-7 .. 2565 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,575 และ 1,550 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,610 และ 1,625 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงข้อมูลตลาดแรงงานเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น