หุ้นไทยแกว่งตัวอิงขาลงตลอดสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยเผชิญแรงขายทำกำไรเกือบตลอดสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทย หลัง สศค. ปรับลดประมาณการจีดีพีไทยปี 2566 เป็น 3.6% จาก 3.8% ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนลดสถานะเสี่ยงก่อนวันหยุดยาวและระหว่างรอผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า สำหรับสัปดาห์นี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมากสุด จากแรงฉุดของหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่แห่งหนึ่ง หลังผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2566 ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังเผชิญแรงกดดันจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ย่อตัวลง
ในวันศุกร์ (28 เม.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,529.12 จุด ลดลง 1.88% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 42,611.43 ล้านบาท ลดลง 17.02% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 3.32% มาปิดที่ระดับ 501.99 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (1-5 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,515 และ 1,500 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,540 และ 1,555 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประชุมเฟด (2-3 พ.ค.) ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลประกอบการงวดไตรมาส 1/66 ของบจ.ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนเม.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม ECB ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค. ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI เดือนเม.ย. ของจีน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น