ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 ทั้งนี้ หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อคืนหุ้นกลุ่มแบงก์และไฟแนนซ์ รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นการเมือง หลังนายกฯ ประกาศจะยุบสภาช่วงต้นมี.ค. เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป อย่างไรก็ดี หุ้นไทยพลิกร่วงในเวลาต่อมาตามทิศทางหุ้นภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่บันทึกประชุมเฟดสะท้อนว่าเฟดยังมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ผลประกอบการของบจ. ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ก็มีส่วนกดดันบรรยากาศหุ้นไทยช่วงปลายสัปดาห์เช่นเดียวกัน
ในวันศุกร์ (24 ก.พ.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,634.02 จุด ลดลง 1.07% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 59,594.55 ล้านบาท ลดลง 16.03% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.97% มาปิดที่ระดับ 563.95 จุด
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (27 ก.พ.-3 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,620 และ 1,595 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,670 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนม.ค. ของไทย ประเด็นการเมืองภายในประเทศ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค. ดัชนี ISM/PMI เดือนก.พ. รวมถึงผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ของญี่ปุ่น ดัชนี PMI เดือนก.พ. ของญี่ปุ่น จีน ยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.พ. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น