Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 กันยายน 2565

Econ Digest

จีน...แล้งหนัก โอกาสส่งออกข้าวหอมมะลิไทย

คะแนนเฉลี่ย

​ปี 65 จีนเผชิญคลื่นความร้อนและภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุด  ซึ่งอาจลากยาวตลอดเดือน ก.ย.-พ.ย.    แม้สถานการณ์ในบางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่คาดว่าคลื่นความร้อนที่ปกคลุมทั่วประเทศอาจกระทบผลผลิตข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่กำลังจะเก็บเกี่ยว  ส่งผลให้จีนอาจต้องเพิ่มการนำเข้า ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 65 จีนน่าจะนำเข้าข้าวจากไทยเป็นหลักเพื่อชดเชยผลผลิตข้าวในประเทศ ซึ่งเป็นจังหวะที่ข้าวนาปี โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทยกำลังออกสู่ตลาด ในขณะที่แหล่งนำเข้าข้าวอื่นอย่างเวียดนาม ปากีสถานและอินเดีย น่าจะมีข้อจำกัดด้านผลผลิตและมาตรการจำกัดการส่งออก อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในไทยและเศรษฐกิจจีนที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจทำให้การส่งออกข้าวไทยไม่ได้อานิสงส์เต็มที่


 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า กรณีสถานการณ์น้ำท่วมในไทยไม่รุนแรงหรือผลกระทบต่อผลผลิตข้าวไม่ขยายวงกว้าง ในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 ปริมาณการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปจีนน่าจะอยู่ที่ราว 95,000-100,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้น  5.7-11.3% (YoY) ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยไปจีนทั้งปี 65 อาจอยู่ที่ราว 155,480-160,480 ตัน หรือเพิ่มขึ้น  18.7-22.5%  โดยในระยะข้างหน้า ไทยอาจเผชิญความท้าทายจากนโยบายเร่งลงทุนด้านการเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารของจีน  จึงควรเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเน้นผลิตสินค้าเกษตรให้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างข้าวพื้นนุ่ม การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่  ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น รวมไปถึงการเน้นผลิตสินค้าคุณภาพอย่างสินค้าออร์แกนิกที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่กับการขยายตลาดไปสู่ตลาดศักยภาพใหม่ๆ นอกจากจีน เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เกาหลีใต้  ในขณะที่การพัฒนาสินค้าเกษตรของไทยควรเป็นไปอย่างสอดคล้องกับกระแสสิ่งแวดล้อมของประเทศนำเข้า อาทิ กลุ่มประเทศในทวีปยุโรป ที่เริ่มใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs) กับสินค้าเกษตรมากขึ้น

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น