Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 ธันวาคม 2562

Econ Digest

“Limited Trade Deal”สหรัฐฯ-จีน หนทางสู่การยุติสงครามการค้า หรือแค่พักรบชั่วคราว

คะแนนเฉลี่ย

สหรัฐฯ-จีน เตรียมลงนามความตกลงการค้าแบบจำกัดขอบข่ายในต้นเดือน ม.ค.2563 รายละเอียดประกอบด้วย ในระยะแรก (Phase 1) ฝั่งสหรัฐฯ เน้นไปที่การปรับอัตราภาษีสินค้านำเข้าที่เก็บกับจีนภายใต้มาตรการปกป้องการค้าที่ไม่เป็นธรรมตามมาตรา 301 ประกอบด้วย 1) การคงภาษีสินค้า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ฯ ไว้ที่ 25% จากที่เคยจะปรับเป็น 30% 2) การลดภาษีสินค้า 1.2 แสนล้านดอลาร์ฯ เหลือ 7.5% จากที่ปรับขึ้นภาษีเป็น 15% ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2562 โดยอัตราภาษีใหม่จะมีผลหลังจากนี้ไป 30 วัน (ในช่วงกลางเดือน ก.พ.2563) และ 3) การยกเลิกการขึ้นภาษี 15% แก่สินค้ากลุ่มสุดท้ายที่เหลือ 1.6 แสนล้านดอลลาร์ฯ ที่เตรียมปรับขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.2562 โดยทางฝั่งจีนให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นของสหรัฐฯ อย่างน้อย 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ภายใน 2 ปี ทั้งนี้ การเจรจาในระยะที่ 2 (Phase 2) มีสัญญาณว่าจะเกิดขึ้นในปี 2563

การเกิดความตกลงนี้ขึ้นมาเหมือนจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจโลก แต่ในความเป็นจริงแล้วคงต้องรอติดตามรายละเอียดอย่างเป็นทางการที่จะเปิดเผยเมื่อลงนามความตกลงในช่วงเดือน ม.ค.2563 โดยเฉพาะเงื่อนไขที่เกี่ยวกับรายการสินค้าที่กำหนดให้จีนนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ท้าทายทางการจีนอย่างมากว่าจะทำอย่างไรให้ภาคธุรกิจเพิ่มการนำเข้าให้ได้ภายในกรอบเวลาของความตกลงโดยที่ไม่ขัดกับเงื่อนไข WTO หรือไม่ส่งผลลบต่อคู่ค้าของจีนรายอื่น นอกจากนี้ การเจรจาใน “Phase 2" ก็อาจไม่ราบลื่นนัก ทั้งยังเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เรื่องนี้ไม่จบโดยง่าย โดยเฉพาะข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่เพ่งเล็งไปในเรื่องที่จีนไม่เคยเปิดให้ใครมาก่อนจึงยากที่ทางการจีนจะยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นการกดดันให้จีนแก้กฎหมายเรื่องสิทธิบัตร/สิทธิทรัพย์สินทางปัญญา (IPs) การเรียกร้องให้ทางการจีนหามาตรการปกป้องการถ่ายโอนเทคโนโลยีของธุรกิจสหรัฐฯ ที่ทำธุรกิจในจีน การเร่งรัดให้ทางการจีนเปิดตลาดธุรกิจบริการให้สหรัฐฯ รวมถึงแรงกดดันอื่นๆ ผ่านเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่ทางฝั่งจีนนั้นยืนอยู่บนพื้นฐานการเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกเลิกข้อกีดกันทางการค้าที่ทำกับจีนในช่วงที่ผ่านมาเป็นหลัก

ดังนั้น ในเบื้องต้นการส่งออกของไทยในปี 2563 ยังคงได้อานิสงส์จากการที่สหรัฐฯ ระงับการเก็บภาษีรอบใหม่และลดภาษีสินค้าจีนบางรายการ ทำให้ผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของจีนลดลงเหลือ 600 ล้านดอลลาร์ฯ เท่านั้น จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1,000-2,500 ล้านดอลลาร์ฯ อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ว่าจีนคงไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน Phase 1 ที่ต้องนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัวในเวลาที่จำกัด อีกทั้งการเจรจาใน Phase 2 ก็เป็นเรื่องยากที่ทั้งคู่จะหาข้อสรุปร่วมกันได้ ทำให้ตลอดปี 2563 มีความเสี่ยงที่สหรัฐฯ จะนำมาตรการกีดกันทางการค้ากลับมาใช้เพื่อกดดันจีนต่อไปแต่จะไม่ร้อนแรงเท่ากับช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสัญญาณดังกล่าวอาจทำให้เส้นทางการเจรจาต่างๆ ต้องใช้เวลายืดเยื้อออกไปจนผ่านการเลือกตั้ง ปธน. ในช่วงปลายปี​



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest