Display mode (Doesn't show in master page preview)

24 มกราคม 2568

Econ Digest

คาดเฟดคงดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 28-29 ม.ค. 2568 ทั้งปีมองเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งตาม Dot Plot

คะแนนเฉลี่ย

ในการประชุม FOMC วันที่ 28-29 ม.ค. นี้ คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% จากปัจจัยดังนี้

  • ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเร่งสูงขึ้น โดยเงินเฟ้อทั่วไปเดือนธ.ค. 2567 เร่งสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันมาอยู่ที่ 2.9% แม้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยฐานในปีก่อนหน้า ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเดือนธ.ค. 2567 ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 3% อย่างต่อเนื่อง (รูปที่ 1)
  • ตัวเลขตลาดแรงงานยังสะท้อนภาพแข็งแกร่ง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) เดือนธ.ค. 2567 ปรับสูงขึ้นมากกว่าตลาดคาดที่ 256,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือนธ.ค. 2567 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.1% (รูปที่ 2)
  • เฟดรอดูแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ท่ามกลางความเสี่ยงจากนโยบายภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้เพิ่มสูงขึ้น หลังจากวันพิธีสาบานตนฯ ทรัมป์ประกาศจะปรับขึ้นภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าแคนาดาและเม็กซิโก และปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนเพิ่มอีก 10% จากอัตราเดิม รวมถึงมีแผนเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายขนานใหญ่
  • ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในไตรมาส 1/2568 หากโมเมนตัมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบันเท่าใดนัก ประกอบกับหากสหรัฐฯ มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าเม็กซิโก แคนาดา และจีน ตามที่ได้ประกาศไว้ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น


        ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด เฟดปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้ ในช่วงไตรมาส 2-4 สอดคล้องกับ Dot Plot ที่ออกมาล่าสุดในการประชุมเดือนธ.ค. 2567  จากดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ถือว่ายังอยู่ในระดับสูง และความเสี่ยงเงินเฟ้อที่เร่งสูงขึ้น ในขณะที่ ตลาดส่วนใหญ่มองเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 1 ครั้งในปีนี้ (รูปที่ 3)


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest