ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3 ที่ออกมาสูงกว่าที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด มีปัจจัยผลักดันหลักมาจากการใช้จ่ายภาคเอกชนที่ขยายตัวถึง 9.0% YoY ตามการใช้จ่ายที่ขยายตัวเร่งขึ้นในทุกหมวด โดยเฉพาะการใช้จ่ายหมวดบริการในกลุ่มโรงแรมและภัตตาคารที่ขยายตัวสูงขึ้นจากการเปิดประเทศ ประกอบกับการประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายขยายตัวจากอุปสงค์คงค้างในช่วงก่อนหน้า ท่ามกลางเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงสุดในไตรมาสที่ 3
นอกจากนี้ การลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นอย่างมาก หลังเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การลงทุนภาครัฐยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน ในขณะที่ การส่งออกสินค้าชะลอลงตามเศรษฐกิจโลก ประกอบกับได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์อยู่เป็นระยะในจีน ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่ยังคงมีอยู่ ขณะที่การนำเข้ายังคงขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยเกินดุลลดลงอย่างมาก
สำหรับทิศทางในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 คาดว่าจะยังได้รับแรงหนุนจากภาคท่องเที่ยวเป็นหลัก ในขณะที่ภาคการส่งออก คาดว่าจะชะลอลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรงลง ส่งผลให้ทั้งปี 2565 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตกว่าที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดไว้ที่ 2.9% ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ในช่วง 3.2-4.2% ใกล้เคียงกับประมาณการของสภาพัฒน์ ซึ่งการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าคงจะขึ้นอยู่กับรายได้จากภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ รวมถึงผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก
|
Click ชมคลิป
GDP ไทยไตรมาส 3/2565 ขยายตัวสูงกว่าที่คาด
|
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น