Display mode (Doesn't show in master page preview)

6 มิถุนายน 2565

Econ Digest

ประชุม กนง. 8 มิ.ย. 65 คาด... กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

คะแนนเฉลี่ย

​ในการประชุม กนง. วันที่ 8 มิ.ย. 2565 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.50 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ แม้ว่าเศรษฐกิจไทย จะเผชิญแรงกดดันมากขึ้นจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงและค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงตามค่าเงินในภูมิภาค อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยฯ ในไตรมาส 4/ 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังทยอยฟื้นตัว


ภายใต้สถานการณ์ เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาด แรงกดดันเงินเฟ้อในประเทศยังไม่ทุเลา ขณะที่การท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัวได้  กนง.  ก็อาจจะพิจาณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายให้มีความเหมาะสมได้ โดยอาจจะปรับขึ้นครั้งละร้อยละ 0.25 จำนวน 1-2 ครั้ง ในช่วงปลายปี ทั้งนี้ หาก กนง. ยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ไทยมีเงินทุนไหลออกและค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า ในระยะข้างหน้า กนง. จึงจำเป็นต้องให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพมากขึ้น


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มีความเป็นไปได้ที่ กนง. อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 1-2 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.75-1.00 จากแรงกดดันจากนโยบายการเงินแบบตึงตัวของเฟด และเงินเฟ้อไทยที่คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ เศรษฐกิจไทยอาจฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว กนง. จึงจะให้น้ำหนักต่อความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจลดลงได้ อย่างไรก็ดี คาดว่า กนง. ยังไม่รีบส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมที่จะถึงนี้ และเลือกที่จะพิจารณาตัวเลขที่สำคัญทางเศรษฐกิจในการประชุมเป็นรอบๆ ไป

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest