Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 มีนาคม 2564

Econ Digest

รู้หรือไม่? สินค้าไทยชนิดใด...ผ่านคลองสุเอซ

คะแนนเฉลี่ย
อย่างที่ทราบกันดีว่าเส้นทางขนส่งสินค้าผ่านคลองสุเอซเป็นเส้นทางลัดในการขนส่งสินค้าระหว่างฝั่งเอเชียกับยุโรปช่วยทั้งประหยัดต้นทุนค่าน้ำมันและย่นย่อระยะเวลาการขนส่งระหว่างสองภูมิภาค ซึ่งสถานการณ์เรือขนส่งสินค้า Ever Given ที่ติดขวางอยู่ที่คลองสุเอซย่อมมีผลต่อการค้าโลก แม้ ณ ตอนนี้ สถานการณ์ส่งสัญญาณคลี่คลายจากเรือที่มีการขยับออกจากสันดอนทรายแล้ว 
ตลาดยุโรปเป็นตลาดส่งออกหลักของไทยที่ใช้เส้นทางผ่านคลองสุเอซ ปัจจุบันไทยส่งสินค้าไปยุโรปปีละไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ สัดส่วนประมาณ 9% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย และเป็นตลาดส่งออกหลักอันดับ 4 ของไทย เป็นรองเพียงสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่นตามลำดับ โดยในแต่ละเดือนสินค้าไทยส่งไปมีมูลค่าประมาณ 1,500-2,000 ล้านดอลลาร์ฯ โดยมีประเภทสินค้าส่งออกที่ส่งไปยุโรปผ่านเส้นทางการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกนี้ ดังนี้
- สินค้าอาหารสดที่อ่อนไหวต่อระยะเวลาขนส่ง มีเพียงไก่แปรรูปของไทยที่ส่งออกในรูปแช่เย็นแช่แข็งและพึ่งพาตลาดยุโรปอย่างมากถึง 30% ของการส่งออกไก่แปรรูปทั้งหมดของไทย ในแต่ละเดือนมีมูลค่าส่งออกไปยุโรปราว 50 ล้านดอลลาร์ฯ และคิดเป็นมีสัดส่วนเพียง 2.6% ของการส่งออกไปยุโรปเท่านั้น 
- ในบรรดาสินค้าที่ส่งไปยุโรปทั้งหมดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยไม่ต่ำกว่า 40% อาจกล่าวได้ว่ายุโรปเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อที่แข็งแกร่งอย่างมาก โดยสินค้าไทยแต่ละรายการก็พึ่งพาตลาดยุโรปพอสมควร โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศพึ่งพาตลาดยุโรป 20% รถยนต์และส่วนประกอบ 5.2% รถจักรยานยนต์ 31% อัญมณี 7% เสื้อผ้าเครื่องนุ่งหุ่ม 22% และอาหารสัตว์เลี้ยง 14% 
- สินค้าขั้นกลางที่มีห่วงโซ่การผลิตเชื่อมโยงกับยุโรปสำหรับไทยก็มีบางส่วน อาทิ  HDD พึ่งพาตลาดยุโรป 15% แผงวงจรไฟฟ้า 14% วงจรพิมพ์ 17% ซึ่งหากเทียบกับประเทศเอเชียอาจเรียกได้ว่าไทยมีห่วงโซ่การผลิตที่เหนี่ยวแน่นกับเอเชียมากกว่ายุโรป
นอกจากนี้คลองสุเอซก็เป็นเส้นทางที่ไทยใช้นำสินค้าจากยุโรปเข้ามาคิดเป็น 8.4% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของไทย โดยเฉพาะสินค้านำเข้ารายการหลักก็ล้วนพึ่งพาตลาดยุโรปอยู่ไม่น้อยในกลุ่มเครื่องจักรกลนำเข้าจากยุโรป 17% เคมีภัณฑ์ 10% เครื่องจักรไฟฟ้า 7% ส่วนประกอบยานยนต์ 10% รถยนต์นั่ง 27% รวมทั้งผลิตภัณฑ์กรรมและเภสัชกรรมที่มีสัดส่วนสูงถึง 44%
โดยสรุปแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองกว่า แม้สถานการณ์ขนส่งติดขัดที่คลองสุเอซดังกล่าวจะทำให้มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละวันเป็นมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์ฯ ต่อวัน แต่จากสัญญาณเบื้องต้นที่เริ่มกู้คืนสถานการณ์ในภาพรวมได้แล้วเหลือเพียงแค่รอให้เปิดใช้ขนส่งสินค้าได้ในอีกไม่นาน ผลกระทบการส่งออกและนำเข้าระหว่างไทยกับยุโรปจึงยังจำกัด แต่ก็ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของตลาดยุโรปที่มีบทบาทช่วยขับเคลื่อนการส่งออกของไทย โดยยังคงคาดการณ์การส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรป (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) ไว้ที่ขยายตัวราว 4.3% และนำเข้าจากสหภาพยุโรปขยายตัวที่ 4.0% อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้วต้องติดตามปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่เกิดจากความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างภูมิภาคในช่วงก่อนหน้านี้ที่ยังเป็นปัญหาอยู่อาจยังมีผลต่อต้นทุนการขนส่งต่อเนื่อง รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหภาพยุโรปที่ทำให้มีการล็อกดาวน์เป็นครั้งที่ 3 แม้ว่าจะมีการกระจายวัคซีนได้แล้วราว 15% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจะมีผลต่อทิศทางการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้าด้วยเช่นกัน



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest