ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป ตามกรอบความตกลงเปิดเสรีด้านการค้าบริการของอาเซียน เวียดนามต้องลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากทุกประเทศในอาเซียนลงเหลือร้อยละ 0 ทั้งหมด จากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 30 สำหรับรถยนต์นั่ง และร้อยละ 5 สำหรับรถปิกอัพ ซึ่งหลายฝ่ายก็คาดหวังกันมากว่าการส่งออกรถยนต์ไปยังเวียดนามน่าจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเป็นเหตุให้ก่อนหน้านี้ก็มีค่ายรถยนต์บางค่ายที่ย้ายฐานการผลิตรถบางรุ่นออกจากเวียดนามมาผลิตที่ไทยแทนเพื่อเตรียมรับอานิสงส์จากการลดภาษีนำเข้าของเวียดนามดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลาดส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามปี 2561 กลับเผชิญแรงกดดันหนักตั้งแต่ต้นปี หลังรัฐบาลเวียดนามออกกฎหมายที่ส่งผลทำให้การนำเข้ารถยนต์ดำเนินการยากมากขึ้น ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หากค่ายรถนำเข้าและรัฐบาลเวียดนามสามารถเจรจาตกลงกันได้ผลดีก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อการส่งออกรถยนต์ของไทย โดยหากค่ายรถเริ่มกลับมาส่งออกได้ตามปกติในไตรมาสที่ 1 การส่งออกรถยนต์ไปเวียดนามของไทยปี 2561 น่าจะทำได้ประมาณ 31,000 ถึง 34,000 คัน จากที่ปี 2560 คาดว่าจะส่งออกได้ 33,000 คัน
ส่วนการส่งออกรถยนต์ไปตลาดโลกโดยรวมของไทยในปี 2561 นี้ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเวียดนามมากนัก เนื่องจากมีปัจจัยบวกหนุนหลายประการ โดยเฉพาะในตลาดโอเชียเนีย เอเชีย และตะวันออกกลาง ส่งผลให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าการส่งออกรถยนต์ในปี 2561 นี้ น่าจะทำได้ 1,160,000 ถึง 1,190,000 คัน หรือขยายตัวร้อยละ 2 ถึง 4 โดยตลาดโอเชียเนีย เอเชีย และตะวันออกกลางจะยังเป็นตลาดหลักที่มีโอกาสขยายตัว
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น