คงต้องยอมรับว่า ตัวเลขมูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนม.ค. 2561 ออกมาสูงกว่าที่คาด ซึ่งผิดแผกไปจากแบบแผนการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาที่โดยส่วนใหญ่มูลค่าการส่งออกสินค้าในเดือนม.ค. จะลดลงจากเดือนธ.ค. ของปีก่อน แต่ในปี 2560/2561 มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือนม.ค. 2561 อยู่ที่ 20,101.4 ล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนธ.ค. 2560 ที่อยู่ที่ 19,741.1 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ดังนี้
-
การส่งออกสินค้าเกษตรหลายรายการสำคัญอย่างข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และน้ำตาลทราย ที่กลับมาขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในเดือนม.ค. 2561
-
สินค้าส่งออกศักยภาพในปี 2560 ยังเติบโตดี โดยการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่ขยายตัวดีต่อเนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 จากอานิสงส์การขยายตัวที่ต่อเนื่องของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า
-
วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังส่งผลทำให้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวสูงบนเลขสองหลัก
การส่งออกสินค้าในช่วงไตรมาส 1/2561 คาดว่าจะยังสามารถรักษาโมเมนตัมการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุน ดังนี้
-
เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักยังมีโมเมนตัมการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อน
-
ระดับราคาน้ำมันดิบที่อยู่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนยังเป็นปัจจัยช่วยหนุนการส่งออกสินค้าที่ราคาเกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียม
-
การส่งมอบข้าวจากการซื้อขายข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลกับจีนในช่วงเดือนก.พ. - มี.ค. 2561
-
แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรบางรายการที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น ทั้งในส่วนของราคาข้าวและมันสำปะหลัง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปี 2561 ยังมีประเด็นที่ยังต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทที่ต่อเนื่อง ประเด็นการต่ออายุ
GSP การกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tariff barriers) เช่น การยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในอาหารที่นำเข้าของหลายประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ราคายางพาราที่คาดว่าในปีนี้จะปรับตัวลดลงจากปี 2560 ซึ่งอาจจะส่งผลต่อมูลค่าการส่งออกยางพารา
ทั้งนี้ จากปัจจัยท้าทายที่กล่าวมา ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยขอรอติดตามสถานการณ์การส่งออกของไทยไปอีกสักระยะ และยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 4.5
YoY
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น