17 ธันวาคม 2563
เกษตรกรรม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบในเบื้องต้นต่อมูลค่ารายได้เกษตรกรที่สูญเสียไปของยางพาราและปาล์มน้ำมันจากผลของน้ำท่วมในภาคใต้รวมอยู่ที่ราว 6,600 ล้านบาท ซึ่งกินระยะเวลาตั้งแต่ธันวาคม 2563 และสร้างผลกระทบต่อเนื่องถึงมีนาคม 2564 จนทำให้เกิดความเสียหายของผลผลิตที่เกิดจากต้นพืชตาย และความเสียหายของผลผลิตที่เกิดจากผลผลิตลดลง รวมแล้วฉุดผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันเสียหายราว 0.58 ล้านตัน ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขผลกระทบดังกล่าวอาจมีผลไม่มากนักต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระดับประเทศคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.04 ของ GDP แต่ในระดับภูมิภาค เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในพื้นที่ที่ครัวเรือนในภาคใต้ก็เผชิญความยากลำบากอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น นโยบายของภาครัฐในโครงการประกันรายได้เกษตรกรน่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีในการช่วยประคับประคองรายได้เกษตรกรในภาคใต้ไม่ให้ต้องเผชิญความยากลำบากมากนัก... อ่านต่อ
FileSize KB
17 มกราคม 2563
ภัยแล้งในฤดูกาลปี 2563 (ม.ค.-เม.ย.2563) ได้เกิดขึ้นเร็วกว่าปีก่อน และส่อเค้าความรุนแรง ยาวนานมากขึ้น จากปริมาณน้ำในเขื่อนที่ลดลงร้อยละ 33.1 (YoY) ซึ่งเป็นการลดลงในแทบทุกภาคของประเทศ และยังเป็นระดับน้ำที่วิกฤติกว่าปี 2558 ที่เกิดภัยแล้งรุนแรงอีกด้วย สร้างความเสียหายต่อพืชฤดูแล้งสำคัญ คือ ข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย... อ่านต่อ
10 พฤษภาคม 2562
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ปรับคาดการณ์สถานการณ์ภัยแล้งในปี 2562 ว่าหากลากยาวต่อเนื่องออกไปอีก 2 เดือนข้างหน้า คือราวเดือนก.ค. จากที่จะยุติในเดือนพ.ค. โดยผลกระทบก็น่าจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากยังไม่ถึงฤดูกาลเพาะปลูกพืชสำคัญอย่างข้าวนาปี รวมถึงระดับความรุนแรงของภัยแล้งน่าจะลดน้อยลงกว่าในช่วงรุนแรงที่สุดในเดือนมี.ค.-เม.ย. ผนวกกับฝนที่อาจมีมาบ้าง แม้ว่าจะยังเป็นภาวะฝนทิ้งช่วงในเดือนก.ค.-มิ.ย. ทำให้ในภาพรวมแล้วสภาพอากาศต่อจากนี้ในอีก 2 เดือนข้างหน้าจะนับว่ายังคงแห้งแล้ง ซึ่งแม้ผลจากภัยแล้งจะช่วยดันราคาข้าวและอ้อยให้ขยับขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตาม จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมรายได้เกษตรกรที่เดิมก็แย่อยู่แล้วให้เผชิญความยากลำบากเพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่อาจเพิ่มขึ้นอีกราวเดือนละ 1,000 ล้านบาท จนอาจประเมินได้ว่า หากภัยแล้งลากยาวไปจนถึงเดือนก.ค.2562 ก็อาจทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมที่ราว 17,300 ล้านบาท ... อ่านต่อ
6 มีนาคม 2562
ภัยแล้งในปี 2562 ได้เริ่มส่งสัญญาณให้เห็นจากฤดูร้อนที่มาเร็วและนานกว่าทุกปี ซึ่งอาจลากยาวจนถึงเดือนพ.ค.2562 อาจกระทบในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตข้าวนาปรัง และอ้อยเป็นหลัก คาดว่าผลกระทบจากภัยแล้งในปี 2562 อาจอยู่ในวงจำกัด ด้วยปัจจัยด้านพื้นที่และจำนวนพืชที่ได้รับผลกระทบ โดยนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตแล้ว ยังอาจไม่ได้เป็นปัจจัยผลักดันราคาข้าวและอ้อยได้อย่างมีนัยสำคัญ เพียงแต่อาจช่วยประคองราคาไว้ได้บ้างในระยะสั้น ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรในปี 2562 ให้ยังคงหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 1.2-1.6 (YoY) โดยผลกระทบในเบื้องต้นของสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2562 ที่ส่งผลกระทบต่อความเสียหายของข้าวนาปรังและอ้อยเป็นหลัก อาจทำให้เกิดมูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจราว 15,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.1 ของ GDP... อ่านต่อ
7 ตุลาคม 2554
... อ่านต่อ
19 กันยายน 2554
28 ตุลาคม 2553