ภาวะอุทกภัยในช่วงปี 2554 มีแนวโน้มรุนแรง และขยายวงกว้างกว่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเดียวกันของปี 2553 ซึ่งเป็นปีที่ผลกระทบภาวะอุทกภัยรุนแรงที่สุดตั้งแต่มีการรายงานความเสียหายจากภาวะอุทกภัย รวมทั้งในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหลายระลอก จากอิทธิพลของทั้งพายุโซนร้อนนกเตน และอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำ ซึ่งทำให้เกิดภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ภาวะน้ำป่า ดินโคลนถล่ม และภาวะน้ำหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่ง สร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรกรรม ทั้งในด้านพืชโดยเฉพาะข้าว ด้านปศุสัตว์ และด้านประมง โดยเฉพาะการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด โดยปัจจุบันรายงานพื้นที่ที่คาดว่าได้รับความเสียหายนั้นมากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 เนื่องจากในปี 2554 นั้นภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติประมาณ 1 เดือน กล่าวคือ ในปี 2554 เกิดปัญหาน้ำท่วมตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม เทียบกับในปี 2553 ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมในช่วงปลายเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังต้องติดตาม คือ อิทธิพลของพายุโซนร้อนที่เคยเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนเป็นประจำทุกปี ซึ่งอาจจะเพิ่มความเสียหายให้กับภาคเกษตรกรรมมากขึ้น โดยในบางพื้นที่อาจจะเกิดปัญหาอุทกภัยระลอกใหม่ ทำให้มูลค่าความเสียหายในภาคเกษตรกรรมมีแนวโน้มเพิ่มสูงกว่าในปี 2553 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินความเสียหายในเบื้องต้นของเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ต่อภาคเกษตรกรรมอาจมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 20,000 ล้านบาท แม้ความเสียหายอาจคิดเป็นเพียงร้อยละ 1.3 ของจีดีพีภาคเกษตรทั้งปี แต่ก็นับว่าเป็นความเสียหายที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับในปี 2553 ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการรายงานความเสียหายจากปัญหาอุทกภัย เนื่องจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากกว่า และราคาของสินค้าเกษตรอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่า
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น