ภาวะอุทกภัยในปี 2553 ที่รุนแรง และขยายวงกว่าทุกปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างมากต่อภาคเกษตรกรรม ส่งผลให้คาดว่าพื้นที่ที่ประสบภาวะอุทกภัยจะครอบคลุมพื้นที่กว่า 30 จังหวัด และคาดว่ายังมีจังหวัดที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และจังหวัดที่เป็นทางที่น้ำผ่านลงแม่น้ำมูล และแม่น้ำชีเพื่อไปลงสู่แม่น้ำโขง/อ่าวไทย ซึ่งรับน้ำจากภาคเหนือลงแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านชัยนาท ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ เพื่อลงอ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรปราการ และจากจังหวัดนครราชสีมา ผ่านทางชัยภูมิ และจังหวัดต่างๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนีอเพื่อลงแม่น้ำโขงที่อุบลราชธานี
สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 นับว่ามาซ้ำเติมภาคเกษตรกรรมจากในช่วงไตรมาสสามต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินความเสียหายในเบื้องต้นของเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ต่อภาคเกษตรกรรมอาจมีมูลค่าประมาณ 3,000-6,000 ล้านบาท แม้ความเสียหายอาจคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.2-0.5 ของจีดีพีภาคเกษตรทั้งปี แต่นับว่ามีผลกระทบไม่น้อยต่อภาคเกษตรกรรมในไตรมาสที่ 4/2553 โดยความสูญเสียจากอุทกภัยอาจจะฉุดให้จีดีพีภาคเกษตรในไตรมาสที่ 4/2553 ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมร้อยละ 0.7-1.4 โดยอัตราการขยายตัว(ณ ราคาปีปัจจุบัน)อาจลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 31.4 - 32.1 YoY จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 32.8
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น