Display mode (Doesn't show in master page preview)

14 ตุลาคม 2564

Econ Digest

KResearch : วิเคราะห์ข่าวเช้าเศรษฐกิจ (14 ตุลาคม 2564)

คะแนนเฉลี่ย


หุ้นไทยรอติดตามลุ้นสัญญาณบวกจาก ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ 

- ตลาดหุ้นไทยปิดบวกวันอังคาร รับข่าวการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการทยอยคลายล็อกดาวน์ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นหลายกลุ่ม อาทิ สายการบิน ค้าปลีก และโรงแรม ขณะที่ หุ้นเอเชียหลายตลาดปิดแดนบวกในวันพุธ อาทิ เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีกว่าคาด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการส่งออกของจีน ตัวเลขการจ้างงานในเกาหลีใต้ รวมถึงการควบคุมสถานการณ์โควิดที่ก้าวหน้าในเชิงบวก
- ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปปรับตัวขึ้น สวนทางกับดัชนีดาวน์โจนส์ของสหรัฐฯ ที่ปิดติดลบเล็กน้อย หลังดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด โดยเฉพาะในหมวดอาหาร ค่าเช่า และพลังงาน ขณะที่บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ตัวสั้น ขยับขึ้นรับการที่เฟดส่งสัญญาณ QE Tapering ด้วยแผนการทยอยลดการซื้อพันธบัตรและ MBS รวมกันเดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งอาจจะเห็นในช่วงกลางพ.ย. หรือในเดือนธ.ค. นี้ และอาจทำให้กระบวนการ QE Tapering สิ้นสุดลงช่วงกลางปีหน้า อย่างไรก็ดี บอนด์ยีลด์ตัวยาวย่อลง เนื่องจากตลาดยังเชื่อว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯเป็นภาวะชั่วคราว ซึ่งบอนด์ยีลด์ตัวยาวที่ปรับตัวลง กระตุ้นแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อทำกำไร 
- ราคาทองทำปรับขึ้น หลังนักลงทุนมีความต้องการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
- ราคาน้ำมันปรับลดลง หลัง OPEC ปรับลดประมาณการใช้น้ำมันโลกลงทั้งในปีนี้และปีหน้า
- ธนาคารกลางสิงคโปร์ส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินเช้านี้ ผ่านแผนการทยอยปล่อยให้เงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน
- ปัจจัยติดตามวันนี้ ได้แก่ 1) ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่เตรียมผ่อนคลายกิจกรรมเพิ่มเติม 2) ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ 3) รายงานการประชุมนโยบายการเงินของ ธปท.
- เงินบาทแข็งค่าขึ้นทดสอบ 33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ เช้านี้ รับข่าวการเปิดประเทศของไทย และแผนการคุมเข้มของธนาคารกลางสิงคโปร์​

 


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest