Display mode (Doesn't show in master page preview)

17 พฤษภาคม 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 13-17 พ.ค. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่ 36.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เงินบาทอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ แต่ล้างช่วงอ่อนค่าลงทั้งหมดและขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงต่อมาสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย และการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ กลับมาเผชิญแรงขายตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ เดือนเม.ย. ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ประกอบกับประธานเฟดส่งสัญญาณว่า เฟดไม่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก ทั้งนี้ จากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ และท่าทีของเฟดดังกล่าว ทำให้ตลาดกลับมาเพิ่มน้ำหนักความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนก.ย. นี้อีกครั้ง โดยในส่วนของเงินบาทนั้น แข็งค่าไปที่ 36.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนในระหว่างสัปดาห์ ก่อนจะอ่อนค่ากลับมาบางส่วนท้ายสัปดาห์ตามการปรับโพสิชั่นของตลาดเพื่อรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 ของไทยในวันที่ 20 พ.ค. นี้  
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.85-36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 ของไทย (20 พ.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด บันทึกการประชุมเฟดเมื่อ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ การประกาศอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate ของจีน ผลการประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของอังกฤษ


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยปิดบวกได้ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบๆ ในช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ก่อนจะปรับตัวลงในช่วงกลางสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ของกลุ่มค้าปลีกและพลังงานออกมาน่าผิดหวัง รวมถึงมีแรงขายหุ้นบิ๊กแคปกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และไฟแนนซ์ ซึ่งถูกคัดออกจากการคำนวณในดัชนี MSCI (มีผลวันที่ 31 พ.ค.นี้) นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากรายงานข่าวที่ว่าสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนหลายรายการ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้ในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ซึ่งชะลอตัวลง ส่งผลให้นักลงทุนคาดว่า มีโอกาสมากขึ้นที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนก.ย.นี้ หุ้นไทยขยับขึ้นต่อในช่วงปลายสัปดาห์ นำโดย หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากปัจจัยเฉพาะตัว  
  • สัปดาห์ที่ 20-24 พ.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,370 และ 1,360 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,390 และ 1,400 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/2567 ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ บันทึกการประชุมเฟด ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนพ.ค.ของจีน และอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของญี่ปุ่น

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น