Display mode (Doesn't show in master page preview)

29 มกราคม 2564

Econ Digest

เฟด คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00-0.25% วงเงิน QE ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือน

คะแนนเฉลี่ย
ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด เสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินรอบแรกของปีนี้ เมื่อคืนวันที่ 27 มกราคม 2564 (ตามเวลาไทย) ซึ่งมีประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้ 

เฟดไม่ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการทางการเงินใดๆ เพิ่มเติม โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ยังคงไว้ที่กรอบ 0.00-0.25% ขณะที่วงเงินซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการ QE ก็อยู่ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือน แบ่งเป็น วงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาล 8.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ และวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อจำนองค้ำประกัน 4.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ

แต่การคงดอกเบี้ยและวงเงิน QE ของเฟด ไม่ได้หมายความว่า เฟดสบายใจกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และรอวันถอยออกจากมาตรการผ่อนคลาย แต่ในทางกลับกัน เฟดยังคงมีท่าทีเป็นห่วงเศรษฐกิจ โดยประเมินว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนสูง และเงื่อนไขของการฟื้นตัวยังขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาด อานิสงส์และประสิทธิผลของวัคซีนต้านโควิด-19 ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งยังไม่ใช่ปัจจัยที่จะกดดันให้เฟดต้องรีบตัดสินใจถอยออกจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในเร็วๆ นี้ 

ดังนั้นแล้ว จุดยืนของเฟดจึงยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งก็คือ การเน้นดูแลโจทย์ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ โดยพร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินด้วยทุกเครื่องมือทางการเงินที่เฟดสามารถทำได้หากจำเป็น และระหว่างนี้ก็รอแรงกระตุ้นจากมาตรการทางการคลังมาช่วยหนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทั้งนี้ ปัจจุบัน อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ยังอยู่ที่ 6.7% ซึ่งสูงกว่าระดับศักยภาพในระยะยาวที่เฟดประเมินไว้ที่ประมาณ 4.1% 

นักลงทุนบางส่วนผิดหวังกับการคงนโนบายการเงินในการประชุมรอบนี้ของเฟด เพราะคาดหวังว่า เฟดอาจจะส่งสัญญาณที่ผ่อนคลายมากกว่านี้ ซึ่งทำให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขายออกมาเพื่อทำกำไรและปรับฐานจากที่ทยอยปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ผลการประชุมเฟดรอบนี้สะท้อนว่า โอกาสที่เฟดจะลดวงเงินการทำ QE หรือจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก ดังนั้นแล้ว เงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงกดดันในด้านอ่อนค่าอยู่ในระยะที่เหลือของปี



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest