ในการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ธ.ค. นี้ คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อและตลาดแรงงานเดือนพ.ย. ออกมาค่อนข้างสอดคล้องกับที่ตลาดคาด โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพ.ย. 2567 แม้เร่งสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% แต่เป็นไปตามที่ตลาดคาด ขณะที่ อัตราว่างงานเดือนพ.ย. 2567 เพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 4.2% สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแรงลง อีกทั้ง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-farm payrolls) แม้ปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นไปตามตลาดคาด หลังจากตัวเลขเดือนก่อนหน้าได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนและการนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมท่าเรือและการบิน
อย่างไรก็ดี ทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ในปี 2568 ยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายน้อยกว่า 4 ครั้งซึ่งน้อยกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ใน Dot Plot เดือนก.ย. 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังต่อไปนี้
- นาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดมีแนวโน้มใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงสะท้อนภาพแข็งแกร่งกว่าคาด และเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับลดลงช้า (sticky) กว่าคาด โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านยอดค้าปลีกที่ยังขยายตัวในเดือนพ.ย. 2567 ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานวัดจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่เฟดให้ความสำคัญ กลับมาเร่งสูงขึ้นในเดือนต.ค. 2567
- นโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีทรัมป์ อาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ให้สูงขึ้น ทั้งนี้ คงต้องติดตามการประกาศนโยบายต่างๆ หลังทรัมป์เข้าพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. 2568 โดยนโยบายต่างๆ เช่น มาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้า มาตรการกีดกันแรงงานอพยพ และมาตรการลดภาษีเงินได้ มีแนวโน้มเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ ในการประชุม FOMC ที่จะถึงนี้ จะมีการเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเฟดอาจส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปี 2568 น้อยกว่า 4 ครั้งที่เคยส่งสัญญาณไว้ในการประชุมเดือนก.ย. 2567 อีกทั้งอาจเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อปี 2568 สูงขึ้นจากประมาณการรอบที่แล้ว
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น