Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 ธันวาคม 2568

Econ Digest

ความเสี่ยงการคลังไทย ถอดบทเรียนจากต่างประเทศ และนัยต่อประเทศไทย

คะแนนเฉลี่ย
  • ฐานะการคลังของไทยอ่อนแอกว่าประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับเดียวกัน (BBB+ / Baa1) จากหนี้สาธารณะที่เพิ่มเร็วและการคลังขาดดุลต่อเนื่อง ทั้งนี้ หาก Nominal GDP โตเพียง 3% ต่อปี การขาดดุลอาจเกิน 4% ของ GDP และหนี้สาธารณะอาจแตะ 70% ภายในปี 2570 เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในระยะข้างหน้า 
  • แผนการคลังระยะปานกลางปี 2570–2573 ตั้งเป้าลดการขาดดุลเหลือ 3% ของ GDP ภายในปี 2572 ซึ่งเป็นสัญญาณบวก แต่ยังมีความเสี่ยงจากสมมติฐานการเติบโตของ GDP ที่อาจสูงเกินจริงและความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายอย่างต่อเนื่อง 
  • บทเรียนจากอิตาลีชี้ว่า การลดขาดดุลอย่างจริงจังทั้งด้านรายได้ รายจ่าย และประสิทธิภาพภาครัฐช่วยหลีกเลี่ยงการถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ไทยสามารถใช้เป็นแนวทางได้ แต่ควรขยายมาตรการให้ครอบคลุม เช่น การขยายฐานภาษี การทำแผนการคลังที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย การเสริมกลไกตรวจสอบงบประมาณ และการปฏิรูประบบราชการ 
  • แม้ถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ไทยยังไม่เข้าสู่วิกฤตการคลังในระยะสั้น เนื่องจากปัจจุบันไทยยังอยู่ในระดับ Investment Grade และสูงกว่า Non-investment Grade อยู่ 2 ระดับ แต่การถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจะกระทบต่อต้นทุนการกู้ยืมและความน่าสนใจในการลงทุน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest