ในการประชุมกนง. วันที่ 17 ธ.ค. 2568 ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าที่ประชุมจะมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ลงมาอยู่ที่ 1.25% ท่ามกลางความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
• พื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแรงลง โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะขยายตัวเพียงราว 0.8% YoY ลดลงจาก 1.2% YoY ในไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบรายไตรมาส เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2568 คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อยราว 0.2% QoQ แม้จะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยทางเทคนิคได้ก็ตาม ทั้งนี้ การส่งออกที่เคยเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงหลังจากการเร่งส่งออกสูงในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่มีมากขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทผัวผวนไปในทางแข็งค่า โดยล่าสุด (ณ วันที่ 15 ธ.ค. 2568) อยู่ในระดับราว 31.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หรือแข็งค่าราว 8% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งยิ่งกดดันความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยมากขึ้น
• เศรษฐกิจไทยเผชิญความเสี่ยงเพิ่มเติมในระยะข้างหน้าจาก
o ผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ โดยแม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว และต้องใช้แหล่งเงินทุนเพิ่มเติมทั้งจากทางภาครัฐและเอกชนในการเยียวยา
o ความตึงเครียดชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งหลังจากการปิดด่านชายแดน การส่งออกผ่านชายแดนลดลงเกือบ 100% และกิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณชายแดนได้รับผลกระทบอย่างมาก
o การยุบสภา ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2569 และในภาวะที่นโยบายการคลังทำงานไม่เต็มที่ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง นโยบายทางการเงินอาจจำเป็นต้องมีบทบาทมากขึ้น
• อย่างไรก็ดี มติในการประชุมครั้งนี้อาจออกมาไม่เป็นเอกฉันท์เช่นเดียวกับในการประชุมครั้งก่อนหน้า เนื่องจากกนง. ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายรวม 0.75% แล้วในปีนี้ ทำให้อาจจะมีเสียงส่วนน้อยยังสนับสนุนให้คงดอกเบี้ย เพื่อรอดูผลของการส่งผ่านนโยบายต่อภาคเศรษฐกิจจริง พร้อมให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายท่ามกลาง policy space ที่มีจำกัดขึ้น
ในปี 2569 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีก 1 ครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี ท่ามกลางทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงจากปีนี้ โดยตามประมาณการล่าสุดของ ธปท. ณ เดือนต.ค. 2568 เศรษฐกิจไทยปี 2569 คาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.6% ลดลงจาก 2.2% ในปี 2568 เนื่องจากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศอ่อนแรงลง ท่ามกลางความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ความตึงเครียดไทย-กัมพูชา และความไม่แน่นอนทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้ง
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น