Display mode (Doesn't show in master page preview)

30 ตุลาคม 2563

Econ Digest

ที่พักต้องสวย...วิวถ่ายรูปต้องสุด ปัจจัยหลักเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวในช่วงนี้

คะแนนเฉลี่ย

​ธุรกิจโรงแรมและที่พัก เป็นหนึ่งในธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ธุรกิจโรงแรมและที่พักสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากการพักแรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยไปแล้วเป็นมูลค่าประมาณ 2.56 แสนล้านบาท สะท้อนให้เห็นจากรายได้ของกลุ่มตัวอย่างในธุรกิจโรงแรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครึ่งแรกของปีนี้ เฉลี่ยหดตัวลงสูงถึงร้อยละ 53 (YoY) โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ที่อัตราการเข้าพักแรมเฉลี่ยทั่วประเทศเหลือเพียงร้อยละ 7

ขณะที่ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 นี้ และต่อเนื่องไปยังปีหน้า แม้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัว แต่ธุรกิจโรงแรมเองก็ยังมีข้อจำกัดที่สูง เนื่องจากลูกค้ายังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นหลัก ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังมีจำนวนที่จำกัด ตามการผ่อนปรนของทางการให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาพำนักระยะยาว ประเภทพิเศษ หรือ Special Tourist Visa (STV) ซึ่งคาดว่ากว่าตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัวอาจจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี จึงจะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิดในปี 2562 ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า อัตราการเข้าพักแรมในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเฉลี่ยต่ำกว่าระดับร้อยละ 40 โดยคาดว่าจะสะท้อนกลับมายังรายได้ของธุรกิจโรงแรมและที่พักที่ถึงแม้จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้วเมื่อเทียบกับช่วงที่มีการประกาศใช้มาตรการ Lockdown แต่ยังต่ำกว่าระดับปกติก่อนโควิดมาก

นอกจากนี้อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ จำนวนที่พักที่มีสูงกว่าความต้องการของนักท่องเที่ยวในประเทศเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาที่รุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักระดับ 4 ดาว ลงมาทำแพคเกจราคาพิเศษเพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการ เห็นได้จาก ค่าห้องพักที่ขายได้ (เฉลี่ย) ของสถานพักแรมทั่วประเทศ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ปรับลดลงประมาณร้อยละ 22.3 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา  และมีแนวโน้มที่การแข่งขันด้านราคาจะมีความเข้มข้นขึ้น จากปัจจัยดังกล่าว สร้างความท้าทายให้กับธุรกิจโรงแรมและที่พักในช่วงที่เหลือของปีนี้ และปี 2564 โดยเฉพาะโรงแรมและที่พักในพื้นที่ที่มีอุปทานจำนวนที่พักสูง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวต่างชาติและมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่นั้นๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายเลือกที่จะหยุดให้บริการชั่วคราวหรือปิดตัวลง

 ขณะที่โรงแรมและที่พักที่ยังจำเป็นต้องเปิดให้บริการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ยังเผชิญความท้าทายสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีต้นทุนคงที่ในการให้บริการสูง ทำให้จำเป็นต้องหาแนวทางเพิ่มรายได้สุทธิเพื่อให้กิจการอยู่รอดได้ ซึ่งคงไม่มีสูตรสำเร็จแต่ ผู้ประกอบการอาจลองพิจารณา 1. เพิ่มความยืดหยุ่นในระบบการจัดการและใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 2. เปิดให้บริการในบางส่วนเพื่อลดต้นทุนหากคาดว่ารายได้จากอัตราการเข้าพักในระยะข้างหน้าสูงกว่าจุดคุ้มทุน 3. ปรับการตลาดมาเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยให้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้จากผลสำรวจพฤติกรรมการเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวโดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า กลุ่มตัวอย่างมองว่าราคาที่พักความสะอาด และการให้บริการไม่ใช่ปัจจัยหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกที่พักของนักท่องเที่ยวในขณะนี้ แต่ปัจจัยด้านอื่นที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญคือ คุณภาพและสภาพแวดล้อมของที่พัก ซึ่งรวมไปถึงมุมของสถานที่พักที่มีจุดขายที่จะสร้างความประทับใจและมีผลต่อประสบการณ์ของคนที่มาพัก โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ในช่วงอายุ 25-36 ปี (Gen Y) จะเลือกที่พักที่มีการตกแต่งสวยงาม เอื้อต่อการถ่ายรูป มากกว่าชื่อเสียงหรือแบรนด์ของโรงแรม ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วงสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้าพัก แต่ยังมีผลทางอ้อมในการช่วยประชาสัมพันธ์โรงแรมจากการที่ภาพถูกแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ยังพบว่า ช่องทางออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อ Travel Journey ของนักท่องเที่ยว โดยเริ่มตั้งแต่การค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การจองที่พักผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งจากทั้งเว็บไซต์ของผู้ประกอบการโดยตรงเอง หรือการจองผ่านแพลตฟอร์มการจองที่พักออนไลน์หรือ Online Travel Agency ต่างๆ อาทิ Agoda, Booking, Traveloka เป็นต้น  รวมถึงการให้คะแนนและรีวิวที่พักหลังจากการเข้าพัก ส่งผลให้การบริหารจัดการช่องทางออนไลน์อย่างรวดเร็วและทั่วถึงนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมและที่พักในปัจจุบัน


 




ขอบคุณภาพจาก  Shutterstock.com

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest