การผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย ที่ส่วนใหญ่พึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบต้นน้ำหรือราคามักจะเคลื่อนไหวตามทิศทางราคาตลาดโลก เมื่อสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อและมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่คงจะอยู่ตลอดปี ผลักดันให้ราคาวัตถุดิบตลาดโลกมีแนวโน้มยืนระดับสูงในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปี 2565 จึงกระทบต้นทุนการผลิต โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาคการผลิตอุตสาหกรรมไทยจะได้รับผลกระทบทั้งจากการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบต่างๆ ที่มากกว่าที่เดิมเคยประเมินไว้ในกรณีที่ไม่มีสงคราม ความจำเป็นที่จะต้องหาสินค้าทดแทนในสถานการณ์ที่ของจะหายากขึ้นหรือไม่มีของ ซึ่งเป็นภาระต้นทุนที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่ต้องแบกรับไว้ผ่านกำไร/มาร์จิ้นที่ลดลง หรือบางส่วนอาจต้องชะลอ/หยุดผลิตลงชั่วคราว
ทั้งนี้ เบื้องต้นประเมินว่า มูลค่าผลกระทบนี้อาจจะมีไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยแต่ละธุรกิจจะได้รับผลกระทบที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสัดส่วนต้นทุนวัตถุดิบต่อต้นทุนรวมและความสามารถในการปรับตัว ซึ่งผู้ผลิตอาหาร รถยนต์ วัสดุก่อสร้าง บรรจุภัณฑ์ เป็นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากมีสัดส่วนต้นทุนวัตถุดิบดังกล่าวต่อต้นทุนรวมที่ค่อนข้างสูง ขณะที่ ผลกระทบบางส่วนอาจจะตกไปยังผู้บริโภคผ่านการทยอยปรับราคาสินค้าในระยะเวลาถัดๆ ไปขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณสต็อกคงเหลือ ความสามารถในการหาวัตถุดิบทดแทน สภาพการแข่งขันในตลาดและกำลังซื้อผู้บริโภค เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น