กระแสความความนิยมอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based protein) ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคของผู้คนเริ่มปรับเปลี่ยนไป โดยลดสัดส่วนการบริโภคเนื้อสัตว์และหันมาบริโภคโปรตีนที่ไม่ได้ทำมาจากเนื้อสัตว์เป็นทางเลือก ขณะเดียวกันยังมีกระแสบริโภคอาหารที่ผลิตจากพืชล้วนทดแทนเนื้อสัตว์ เนื่องจากการปศุสัตว์ก่อให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก การบริโภคโปรตีนจากพืชจึงถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การปรับเปลี่ยนเหล่านี้ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์มีแนวโน้มลดลง ขณะที่ความต้องการบริโภคอาหารประเภทโปรตีนจากพืชเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสในการเพาะปลูกพืชประเภทถั่ว รวมถึงการแปรรูปอาหาร ตลอดจนธุรกิจอาหารที่มีคุณค่าทางโปรตีนสูง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประมาณการ มูลค่าการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในปี 2562 โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 88,731 ล้านบาท หรือมีอัตราการขยายตัวจากปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 2.4 หากจำแนกเป็นรายกลุ่มอาหาร คาดว่า กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลจะมีมูลค่าประมาณ 54,881ล้านบาท รองลงมาคือกลุ่มอาหารฟรีฟอร์มที่ปราศจากส่วนประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัว คลอเรสเตอรอล หรืออนุมูลอิสระที่เป็นสารก่อมะเร็ง มีมูลค่า 23,725 ล้านบาท กลุ่มอาหารออร์แกนนิค มีมูลค่าประมาณ 3,400 ล้านบาท สำหรับกลุ่มโปรตีนจากพืชและนมพืชนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2562 กลุ่มโปรตีนจากพืชและนมพืชมีมูลค่าประมาณ 6,725 ล้านบาท และมีแนวโน้มขยายตัวประมาณร้อยละ 6.4 ตามกระแสความนิยมบริโภคอาหารโปรตีนสูงเพื่อสร้างสมดุลทางโภชนาการทดแทนเนื้อสัตว์ รวมถึงการรักษาสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังมองว่า การผลิตโปรตีนจากพืช อาจต้องเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากปริมาณการเพาะปลูกถั่วเหลือง ซึ่งเป็นพืชโปรตีนสูงสำคัญที่ใช้เป็นวัตถุดิบ ยังไม่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ การผลิตโปรตีนจากพืชโดยใช้ถั่วเหลืองนำเข้าจึงอาจเผชิญกับความผันผวนทั้งในด้านปริมาณผลผลิตและราคาในตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาจำหน่ายโปรตีนจากพืชยังมีราคาค่อนข้างสูง สิ่งเหล่านี้อาจเป็นข้อจำกัดในการผลิตโปรตีนจากพืช
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น