การแพร่ระบาดของโควิดและปัญหาขาดแคลนแรงงานทำให้อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารที่ต้องพึ่งพาแรงงานอย่างเข้มข้นจำเป็นต้องพิจารณานำระบบ
Automation มาใช้งานมากขึ้น
ซึ่งนอกเหนือจากจะลดความเสี่ยงด้านการผลิตอันเกิดจากการใช้แรงงานคนแล้ว ยังมีส่วนช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการผลิตอาหารให้สูงขึ้น
โดยเฉพาะการบรรลุมาตรฐานป้องกันการปนเปื้อนขั้นสูงอย่าง HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point) เพื่อตอบสนองความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้บริโภคในด้านความปลอดภัยของอาหารที่น่าจะยังคงอยู่หลังช่วงโควิด
ทั้งนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การนำระบบ Automation มาใช้งานจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้ประกอบการ
โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ควรยกระดับการผลิตของตน โดยนำระบบ IRA (Industrial Robotic Arm) มาทดแทนแรงงานฝีมือ
ควบคู่ไปกับการใช้ระบบ CNC (Computer Numerical Control) เพื่อเสริมสายพานการผลิตแบบอัตโนมัติของตนให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ในขณะที่ผู้ประกอบการขนาดกลางควรนำระบบ CNC มาใช้ในกระบวนการผลิตควบคู่ไปกับแรงงานฝีมือในบางจุด
และผู้ประกอบการขนาดเล็กซึ่งต้องการกำลังการผลิตไม่สูงนัก
อาจเพียงพิจารณานำเครื่องจักรทั่วไปมาใช้งาน
นอกจากนี้
การนำระบบ Automation มาใช้ในกระบวนการผลิตมีส่วนเปลี่ยนแปลงบทบาทของแรงงานสู่การทำหน้าที่ควบคุมระบบ
ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผลิต
รวมไปถึงการซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบ ดังนั้น
การพัฒนาฝีมือแรงงานให้สามารถทำงานร่วมกับระบบ Automation
ได้จึงเป็นกุญแจสำคัญ
ซึ่งควรจะมีการบูรณาการตั้งแต่ภาคการศึกษาไปจนถึงผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น