จากสถานการณ์วิกฤติขยะบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของการบริโภค อีกทั้งยังมีปัจจัยกระตุ้นจากแนวโน้มการเติบโตของอาหารสะดวกซื้อ และธุรกิจส่งอาหารที่ขยายตัวอย่างมากในช่วงมาตรการกึ่งล็อกดาวน์เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 โดยขยะบรรจุภัณฑ์มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นขยะบรรจุภัณฑ์จากอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ยังไม่มีการคัดแยกและกำจัดอย่างเหมาะสม แสดงให้เห็นว่า ไทยจำเป็นต้องเร่งปรับตัวทั้งด้านการผลิตและการจูงใจผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการสร้างการจัดการขยะหลังการบริโภคทั้งระบบ ซึ่งจะทำให้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน่าจะมีโอกาสขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้ว่าในปี 2563 ธุรกิจจะต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับลดต้นทุนบางส่วนลง ด้วยการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบดั้งเดิมที่มีราคา
ต่ำกว่าในระยะนี้ แต่มูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน่าจะยังเติบโตเฉลี่ย 25% จากปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,100-2,400 ล้านบาท ซึ่งชะลอลงจากปีก่อนหน้า
ที่เติบโตเกือบเท่าตัว แต่ก็ยังทำให้ส่วนแบ่งตลาดในปี 2563 จะเพิ่มขึ้น จากประมาณ 1% ไปอยู่ที่ 2% ของมูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มรวม
อย่างไรก็ดี ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน่าจะยังมีโอกาสในการขยายตลาดได้ ภายใต้ปัจจัยด้านความตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภค ประกอบกับเงื่อนไขสนับสนุนการผลิต เช่น มาตรการส่งสริมการลงทุน ความพร้อมด้านวัตถุดิบทดแทน รวมทั้งมาตรการภาครัฐเพื่อสร้างระบบการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มูลค่าบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน่าจะขยายตลาดได้เพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 13,000-16,000 ล้านบาท ในปี 2568 ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 8-10% ของมูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มรวม
ในขณะที่การปรับตัวของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกซึ่งมีสัดส่วนการใช้งานมากที่สุด จะส่งผลบวกต่อตลาดบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม โดยคาดหวังจะเห็นกลไกสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการลดขยะบรรจุภัณฑ์และสร้างแนวทางการบริโภคที่ยั่งยืน ซึ่งสอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลก ทั้งด้านมาตรฐานบรรจุภัณฑ์ที่เข้มข้นขึ้นทั่วโลก และมุ่งไปสู่การใช้ Recycled PET Recycled PP รวมถึงการลงทุนเพื่อผลิตไบโอพลาสติก (PLA) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น