ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบในเบื้องต้นต่อมูลค่ารายได้เกษตรกรที่สูญเสียไปของยางพาราและปาล์มน้ำมันจากผลของน้ำท่วมในภาคใต้รวมอยู่ที่ 6,600 ล้านบาท ซึ่งกินระยะเวลาตั้งแต่ธันวาคม 2563 และสร้างผลกระทบต่อเนื่องถึงมีนาคม 2564 จนทำให้เกิดความเสียหายของผลผลิตที่เกิดจากต้นพืชตาย และความเสียหายของผลผลิตที่เกิดจากผลผลิตลดลง รวมแล้วฉุดผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันเสียหายราว 0.58 ล้านตัน
ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขผลกระทบดังกล่าวอาจมีผลไม่มากนักต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระดับประเทศคิดเป็นเพียงร้อยละ 0.04 ของ GDP แต่ในระดับภูมิภาค เหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบค่อนข้างมากต่อคนในพื้นที่ที่ครัวเรือนในภาคใต้ก็เผชิญความยากลำบากอยู่ก่อนแล้ว จากปัญหารายได้ภาคเกษตร อีกทั้งหากสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้เริ่มคลี่คลายแล้ว จะส่งผลต่ออุปทานยางพาราและปาล์มน้ำมันที่จะทยอยกลับมาผลิตได้ตามปกติ ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะลดต่ำลง ประกอบกับภาคการส่งออกที่ไม่ดีนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ จะยิ่งเป็นปัจจัยฉุดรั้งราคาให้มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำได้ในระยะข้างหน้า ดังนั้น จึงนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่นโยบายของภาครัฐในโครงการประกันรายได้เกษตรกรระยะที่ 2 จะสามารถเป็นตัวขับเคลื่อนที่ดีในการช่วยประคับประคองรายได้เกษตรกรในภาคใต้ไม่ให้ต้องเผชิญความยากลำบากมากนัก
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock.com
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น