• คณะกรรมการค่าจ้างมีมติปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประจำปี 2565 โดยเตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.65 โดยได้แบ่งการปรับขึ้นเป็น 9 ช่วง ค่าจ้างต่ำสุดอยู่ที่ 328 บาท สูงสุด 354 บาท (เดิมอยู่ในช่วง 313-336 บาท) หรือเป็นการปรับขึ้นร้อยละ 3-7 ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในรอบ 2 ปี
• การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะมีผลในไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป ขณะที่ผู้ผลิตคงจะไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนทั้งหมดไปยังผู้บริโภคได้ทันที ดังนั้น คาดว่าผลกระทบของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำต่อเงินเฟ้อในปีนี้คาดว่าจะมีจำกัด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการเงินเฟ้อไทยในปีนี้อยู่ที่ 6.0% ซึ่งประมาณการนี้ได้รวมผลกระทบของการปรับค่าแรงขั้นต่ำแล้ว อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะเห็นการส่งผ่านต้นทุนค่าแรงจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคมากขึ้นในปีหน้า โดยคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อไทยในปีหน้าจะอยู่ในกรอบ 2.5-3.0% ภายใต้สมมติฐานว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปีหน้าอยู่ที่ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นไปตามมติและไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคาดว่าจะส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นราว 0.4-0.5% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ภายใต้สมมติฐานที่กำหนดให้ปัจจัยอื่นคงที่
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น