Display mode (Doesn't show in master page preview)

9 พฤศจิกายน 2561

สถาบันการเงิน

คาด กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึงสิ้นปี...ติดตามปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่อาจมีผลต่อจังหวะอัตราดอกเบี้ยไทยปีหน้า (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3771)

คะแนนเฉลี่ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย น่าจะคงอัตราดอกเบี้ย นโยบายที่ระดับ 1.50% ในการประชุมครั้งนี้ รวมถึงการประชุมรอบสุดท้ายในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินบางท่านจะเริ่มส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินของไทย แต่คงต้องยอมรับว่าโอกาสที่ กนง. จะปรับขึ้นนโยบายการเงินในปีนี้คงมีไม่มาก หลังจากที่ภาคเศรษฐกิจต่างประเทศของไทย ทั้งการท่องเที่ยวและการส่งออกมีสัญญาณอ่อนแรงลงพร้อมกัน แม้ว่าบางส่วนจะมาจากปัจจัยเฉพาะ แต่ก็น่าจะส่งผลให้คณะกรรมการนโยบายการเงินคงจะให้น้ำหนักการดำเนินนโยบายการเงินไปที่การรักษาเสถียรภาพของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจต้องอาศัยแรงหนุนจากปัจจัยในประเทศ ทั้งจากการบริโภค รวมทั้งการลงทุน ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในจังหวะนี้อาจจะสร้างความเสี่ยงเพิ่มเติม ผ่านค่าเงินบาทที่อาจจะปรับแข็งค่าขึ้นซึ่งจะไม่เป็นผลดีความสามารถในการแข่งขัน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว รวมทั้ง อาจส่งผลลบต่อภาคการบริโภคและการลงทุนภายใต้สถานการณ์ที่เศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น            สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในปีหน้า ที่อาจจะมีน้ำหนักต่อการพิจารณาจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย คงมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ พัฒนาการของประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังมีความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจจะปรับเพิ่มภาษีการค้าจีนในรอบ 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นปี 2562 รวมทั้ง อาจจะพิจารณาเก็บภาษีสินค้าที่เหลือของจีนอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ฯ ยังมีอยู่ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2562 อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้ทางการจีนดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น สวนทางกับการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด อันอาจจะเป็นประเด็นสร้างความผันผวนของตลาดเงินในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้ง กดดันให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงได้อีก อันกลายเป็นปัจจัยที่กระทบต่อการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งโดยรวมจะมีผลต่อแนวโน้มการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่คงปรับลดลง นอกจากนี้ คงต้องติดตาม ผลกระทบต่อความผันผวนของตลาดการเงินในประเทศตลาดเกิดใหม่ จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของเฟด เนื่องจากความเปราะบางของเศรษฐกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่หลายๆ ประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้มีโอกาสที่ประเทศที่มีเสถียรภาพเศรษฐกิจต่างประเทศอ่อนแออาจจะเผชิญความผันผวนของค่าเงิน และกดดันให้ค่าเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลงได้ รวมทั้ง อาจส่งผลให้การดำเนินนโยบายการเงินอาจมีความแตกต่างกันมากขึ้น ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายของเงินทุนที่คงผันผวนมากขึ้น

            ทั้งนี้ ภายใต้สุมมุติฐานที่ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับที่จำกัด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินอาจจะเริ่มพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายไตรมาส 1/2562 หากโมเมนตัมของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


สถาบันการเงิน