Display mode (Doesn't show in master page preview)

2 ตุลาคม 2563

สถาบันการเงิน

ตลาดเงินตลาดทุนอาจผันผวน ... รอติดตามอาการป่วยของปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3888)

คะแนนเฉลี่ย

​           ​ล่าสุดมีรายงานข่าว ซึ่งได้รับการยืนยันจากทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งนับเป็นข่าวใหญ่ และเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยการยืนยันผลการติดโควิด-19 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่น่าจะมีผลต่อคะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งรอบนี้ เนื่องจากในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรอบนี้เป็นการสู้กันของ 2 พรรคการเมืองที่มีนโยบายและจุดยืนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นประชาชนอเมริกันซึ่งมีพรรคการเมืองที่ตนเองชื่นชอบอยู่แล้วก็คงไม่เปลี่ยนการตัดสินใจ ขณะที่คาดว่า ผลการดีเบตรอบแรกที่สิ้นสุดลงไปแล้วระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายโจ ไบเดนอาจทำให้ประชาชนอเมริกันซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจมีความโน้มเอียงคะแนนไปให้กับนายโจ ไบเดนมากขึ้น นอกจากนี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ผู้สนับสนุนนายโจ ไบเดนของพรรคเดโมแครตจะเปลี่ยนใจมาสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยเหตุผลในเรื่องความห่วงใยในสุขภาพของนายโดนัลด์ ทรัมป์

            ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยว่าจะมีการเลื่อนกำหนดวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกไปด้วยประเด็นด้านสุขภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยจากประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องมีการเลื่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีมาก่อน อย่างไรก็ดีหากพิจารณาตามกฎหมายแล้ว การกำหนดวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของทำเนียบขาวหรือประธานาธิบดี แต่จะอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของสภาคองเกรสทั้ง 2 สภา ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า พรรคเดโมแครตซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรคงคัดค้านข้อเสนอให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งฯ ออกไป

            แม้ตลาดเงิน-ตลาดทุนรับข่าวนี้ด้วยภาพความปั่นป่วน สินทรัพย์เสี่ยงเผชิญแรงขาย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีทิศทางปะปน (เงินดอลลาร์ฯ ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับเงินเยน แต่ก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ) แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ประเด็นด้านสุขภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่น่าจะมีผลโดยตรงต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในระยะสั้น โดยเฟดน่าจะรอติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีว่าจะสิ้นสุดลงด้วยความเรียบร้อย หรือเกิดประเด็นทางการเมืองยืดเยื้อในช่วงหลังจากนั้นจนมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แล้วจึงพิจารณาเครื่องมือทางการเงินและดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเพิ่มเติมในจังหวะเวลาที่เหมาะสมต่อไป



                                                                                                                                                                                                               ​ขอบคุณภาพจาก  Shutterstock.com


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


สถาบันการเงิน