Display mode (Doesn't show in master page preview)

18 พฤศจิกายน 2563

Econ Digest

บาทแข็ง 3.4% หลังทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้น+บอนด์มากสุดในรอบ 17 เดือน รับไบเดนชนะเลือกตั้ง

คะแนนเฉลี่ย

​​​การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สิ้นสุดลงพร้อมผลการนับคะแนนเบื้องต้นที่สะท้อนว่า นายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนครั้งสำคัญของนักลงทุนทั่วโลก  โดยอานิสงส์ส่วนหนึ่งอยู่ที่ตลาดเงินตลาดทุนในเอเชีย ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรของไทย

หากนับเฉพาะช่วงเวลาระหว่าง 1-17 พฤศจิกายน 2563 มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 4.62 หมื่นล้านบาท ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมามีสถานะซื้อสุทธิที่ 2.56 หมื่นล้านบาท จากที่ขายสุทธิมาตลอดในช่วง 15 เดือนก่อนหน้านี้ (ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562) ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย SET Index ปรับเพิ่มขึ้นแล้วถึง 13%

เม็ดเงินลงทุนของต่างชาติที่ไหลเข้ามาทั้งในส่วนของตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรของไทยในช่วงเวลาเดียวกัน (เมื่อรวมเข้ากับทิศทางเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าจากสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินของเฟด และผลจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย) ส่งผลทำให้เงินบาทพลิกกลับสู่ทิศทางแข็งค่าอย่างชัดเจน โดยเงินบาทขยับแข็งค่าแล้วประมาณ 3.4% นับจากต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ล่าสุดมาอยู่ที่ 30.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ (ณ 17 พฤศจิกายน 2563) 

ซึ่งสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าดังกล่าวกำลังกลายเป็นปัจจัยที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดทั้งจากผู้ประกอบการในภาคการส่งออกและหน่วยงานของทางการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเงินบาทที่มีจังหวะแข็งค่าในเวลานี้อาจมีผลกระทบต่อเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า โดยประเด็นติดตามที่สำคัญจะอยู่ที่มาตรการดูแลค่าเงินบาทและปัจจัยทางการเมืองในประเทศ ขณะที่ปัจจัยฝั่งเงินดอลลาร์ฯ จะยังได้รับอิทธิพลจากสัญญาณนโยบายการเงินจากเฟด สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของไบเดน ในระยะข้างหน้าว่าจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดมากน้อยเพียงใด











                                                                                                                                                                                                       ขอบคุณภาพจาก  Shutterstock.com​

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest