Display mode (Doesn't show in master page preview)

29 กรกฎาคม 2564

Econ Digest

เศรษฐกิจโลกขยับขึ้น...ดันส่งออกไทยขยายตัว คาดทั้งปีโต 11.5%

คะแนนเฉลี่ย
เดือนมิ.ย. 64 การส่งออกไทยขยายตัว 43.82% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี และสูงกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 38.1% ส่งผลให้การส่งออกไทยครึ่งปีแรกเติบโตที่ 15.53% โดยระดับดังกล่าวไม่นับว่าสูงมากเมื่อเทียบการฟื้นตัวของการส่งออกของประเทศในภูมิภาคที่ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ทั้งนี้ เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ ​อาวุธยุทธปัจจัย การส่งออกไทยครึ่งปีแรกขยายตัว 20.84% ​

การส่งออกไปประเทศคู่ค้าสำคัญเติบโตแข็งแกร่งในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรปที่เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการส่งออกไปตลาดอาเซียนก็ขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ว่าหลายประเทศจะยังคงเผชิญการแพร่ระบาดและใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวด ทั้งนี้ สินค้าหลักที่หนุนการส่งออกไทยในภาพรวมยังคงเป็นสินค้าเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาคการผลิต และสินค้าเกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน นอกจากนี้ การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับก็พลิกกลับมาขยายตัวที่ 90.5% โดยหากไม่รวมทองคำการส่งออกอัญมณีขยายตัวถึง 114.3% ซึ่งขยายตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน สะท้อนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างประเทศที่เริ่มกลับมาต่อเนื่อง

ครึ่งหลังปี 2564 การขยายตัวของการส่งออกไทยมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น เนื่องจากปัจจัยฐานเปรียบเทียบที่ต่ำและการชดเชยอุปสงค์ที่ค้างจากช่วงก่อนหน้ามีแนวโน้มคลี่คลายลง แต่จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ทำให้ความต้องการสินค้าส่งออกไทยมีมากขึ้น ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับคาดการณ์ส่งออกไทยปี 2564 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 11.5% จากที่เคยประเมินไว้ที่ 9.0% ในเดือนมิ.ย. โดยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยางพารา และผักผลไม้น่าจะยังเติบโตได้ดี รวมถึงสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันน่าจะยังเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยราคาที่ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง สำหรับในระยะข้างหน้าการส่งออกไทยจะยังคงเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งความเสี่ยงจากโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง หลังจากหลายประเทศเริ่มมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงขึ้นจากสายพันธุ์เดลต้า และในไทยเองหากการแพร่ระบาดมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอาจทำให้การขาดแคลนแรงงานภาคอุตสาหกรรมมีความน่ากังวลมากขึ้น และอาจกดดันการส่งออกไทยในระยะข้างหน้า



Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest