Display mode (Doesn't show in master page preview)

27 กรกฎาคม 2563

Econ Digest

การประชุม 28-29 ก.ค. 63 คาด…เฟดคงดอกเบี้ยฯ ที่ระดับ 0.0-0.25% หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรุดตัวยาวนานกว่าคาดการณ์ เฟดอาจใช้นโยบายการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน

คะแนนเฉลี่ย

​การประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2563 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า  เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% เนื่องจากมาตรการต่างๆ ที่เฟดได้ดำเนินการไปแล้ว น่าจะเพียงพอที่จะรองรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มอ่อนแรง และน่าจะใช้ระยะเวลายาวนานในการฟื้นตัว

ทั้งนี้ เป็นที่แน่ชัดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างมากในปีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่การว่างงานจะเป็นปัจจัยหลัก ที่กดดันอุปสงค์ภายในประเทศ และส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ล่าสุด IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ จะหดตัวที่ -6.6% และจะกลับมาขยายตัวที่ 3.9% ในปีหน้า ซึ่งมาตรการภาครัฐต่างๆ ทั้งมาตรการทางการเงินและมาตรการทางการคลังที่ได้ดำเนินการไปแล้ว น่าจะเพียงพอที่จะ ประคับประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ให้อยู่ในกรอบที่ IMF คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ดี หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มทรุดตัวลงไปมากกว่าและยาวนานกว่าคาดการณ์ เฟดยังพอมีทางเลือกในการทำนโยบายเพิ่มเติม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มีความเป็นไปได้ที่
เฟดอาจจะใช้นโยบายการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield Curve Control) เพราะจะช่วยให้เฟดสามารถรักษาอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล ให้อยู่ในระดับต่ำต่อไปในระยะข้างหน้า โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มการเข้าซื้อสินทรัพย์มากเกินควร อันจะส่งผลต่อความยั่งยืนทางการคลัง อนึ่ง เฟดน่าจะหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ หากยังไม่มีความจำเป็น เนื่องจากนโยบายดังกล่าวจะสะท้อนมุมมองทางลบของเฟดต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะก่อให้เกิดความวิตกกังวลในตลาด และส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest