Display mode (Doesn't show in master page preview)

14 มกราคม 2565

Econ Digest

ตลาดที่อยู่อาศัย ปี 65 ปีแห่งการประคับประคองธุรกิจ

คะแนนเฉลี่ย

​ที่อยู่อาศัยปี 2565 ยังเป็นปีแห่งการประคับประคองธุรกิจ แม้จะมีปัจจัยหนุนจากการต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการซื้อที่อยู่อาศัย การผ่อนคลายมาตรการ LTV และการทำแคมเปญการตลาดและโปรโมชั่นต่าง ๆ ซึ่งน่าจะทำให้กิจกรรมซื้อขายปรับตัวดีขึ้นกว่าปี 2564 แต่การฟื้นตัวของตลาดยังขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญอย่างการระบาดของโควิด-19 ซึ่งหากเกิดการระบาดระลอกใหม่และครอบคลุมระยะเวลาที่ยาวนาน ก็จะทำให้การฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชนใช้ระยะเวลานานขึ้น กดดันการซื้อและการลงทุนที่อยู่อาศัย


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อกิจกรรมการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะครึ่งแรกปี 2565 การซื้อขายน่าจะยังชะลอตัว และหากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย คาดว่าการซื้อที่อยู่อาศัยน่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ดังนั้นคาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑลปี 2565 จะมีจำนวนราว 1.68 – 1.77 แสนหน่วย ขยายตัว 1.8%-7.3% จากที่คาดว่าจะหดตัวราว 16.1% ในปี 2564  ขณะที่การจองซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑลน่าจะอยู่ที่ราว 6.3 – 6.9 หมื่นหน่วย ขยายตัว 0.0%-9.5% จากที่คาดว่าจะหดตัวราว 3.5% ในปี 2564  


สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ปี 2565 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากกิจกรรมซื้อขายยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ การแข่งขันในตลาดรุนแรง โจทย์ด้านสภาพคล่อง และต้นทุนในธุรกิจที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ที่อยู่อาศัยสะสมรอขายในกรุงเทพฯและปริมณฑลยังมีมากกว่า 2 แสนหน่วย โดยคาดว่าปี 2565 จะทรงตัวอยู่ที่ 2.11-2.23 แสนหน่วย เทียบกับที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 2.27 แสนหน่วยในปี 2564 โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 55.4% ที่อยู่อาศัยรอขายสะสมส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม รองลงมาคือทาวน์เฮ้าส์ ทั้งนี้ คาดว่าปี 2565 การเปิดตัวที่อยู่อาศัยใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลจะยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่าก่อนโควิด โดยอยู่ที่ราว 6.0 – 6.6 หมื่นหน่วย จากที่ประเมินว่าจะเปิดตัวเพียง 5.6 หมื่นหน่วย ในปี 2564 โครงการใหม่ในปี 2565 น่าจะเน้นตลาดกลาง-บน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างบ้านเดี่ยว ขณะที่คอนโดมิเนียมน่าจะเปิดตัวเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่าก่อนโควิด โดยเน้นทำเลแหล่งชุมชนมากขึ้น ราคาราว 3 ล้านบาท ต่างจากเดิมที่เน้นโครงการแนวรถไฟฟ้า

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest