Display mode (Doesn't show in master page preview)

18 พฤษภาคม 2564

Econ Digest

โควิดระลอก 3 ดันยอดใช้งาน Mobile Banking และ e-Wallet โต

คะแนนเฉลี่ย

การแพร่ระบาดของโควิด-19  ทำให้การทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking และ e-Wallet เติบโตเร่งสูงขึ้น โดยจากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า ผู้บริโภคไทยมีการโอนเงินและชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน Mobile banking และ e-Wallet อยู่ที่ 19 ครั้งต่อสัปดาห์ สูงกว่าการใช้งานในช่วงการระบาดระลอกแรกที่มีอัตราการใช้งานอยู่ที่ 17 ครั้งต่อสัปดาห์ ขณะที่มีผู้บริโภคกว่า 53.9% มีการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมาจากผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ที่จำกัด ยอดการซื้อต่อครั้งเพิ่มขึ้นจากผลสำรวจครั้งก่อน 350 บาท เน้นการใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภค และสินค้าแฟชั่น เหมือนผลสำรวจครั้งก่อน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด ปี 2564 ปริมาณการทำธุรกรรมโอนเงินและชำระเงินผ่าน Mobile Banking จะขยายตัวราว 80.2%–83.5% YoY เร่งขึ้นจากปี 2563 ที่ 79.7% เช่นเดียวกับปริมาณธุรกรรมผ่าน e-Money ที่คาดว่าจะเติบโตราว 15.8%–18.0% สูงกว่าปี 2563 ที่ 8.7% ทั้งนี้ ปริมาณการทำธุรกรรมผ่าน e-Money ที่เร่งตัวขึ้นน่าจะมีแรงผลักดันหลักจากการใช้ G-Wallet (เป๋าตัง) จากโครงการของรัฐ รวมถึงได้รับแรงผลักดันจากผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามาทำการตลาดมากขึ้น

ผลสำรวจชี้ ปัจจุบันผู้บริโภคราว 71.3% ถือ Mobile Banking ขณะที่ถือ e-Wallet 28.6% แต่ในอนาคตผู้ให้บริการอาจต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมาก เนื่องจากผู้บริโภคพร้อมที่จะเปลี่ยนแอปพลิเคชันใช้งานหากมีแรงจูงใจที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่พบว่า ปัจจัย 3 อันดับแรกที่ทำให้มีการใช้ e-Wallet คือ ความสะดวกสบาย (34.4%) มีโปรโมชั่นที่จูงใจ (16.9%) มีร้านค้าที่ร่วมบริการรับชำระค่าสินค้าและบริการที่หลากหลาย (16.2%) ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคส่วนใหญ่ราว 32.3% มี Mobile Banking และ e-Wallet มากกว่า 5 แอปพลิเคชัน ซึ่งผู้ให้บริการอาจต้องเผชิญความท้าทายในการรักษาฐานลูกค้า และจูงใจให้ลูกค้าใช้งานต่อเนื่อง นอกจากนี้ หากทางการไทยสามารถเข้ามาดูแลกิจกรรมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก็อาจมีผลต่อทิศทางหรือรูปแบบการชำระเงินเช่นกัน


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest